top of page

วันแรก กรุงเทพฯ (ไทย)
18.00น. คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4ประตู 9แถว T สายการ

บินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
21.25น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK373 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่สอง ดูไบ-มิลาน-แองเกิลเบิร์ก-ยอดเขาทิตลิส (ดูไบ-อิตาลี-สวิสฯ)
00.50 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
03.35 น. ออกเดินทางสู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK101
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
08.15 น. เดินทางถึง เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมืองแองเกิลเบิร์ก ของสมาพันธรัฐสวิสระหว่างชมทิวทัศน์สองข้างทางและสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติแห่งสวิสเซอร์แลนด์ เมืองแองเกิลเบิร์ก เป็นอีกหนึ่งเมืองรีสอร์ทชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้ๆกับ"ภูเขาทิตลิส" (Mount Titlis) ภูเขาที่มียอดสูงจากระดับน้ำทะเลหนึ่งกว่า 10,000 ฟุต หรือ 3,020 เมตร ปัจจุบันเมืองแองเกิลเบิร์กได้กลายเป็นอีกหนึ่งอัลไพน์รีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้แล้วเมืองยังเป็นเสมือนแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ทั้งในช่วงฤดูร้อนทั้งสองและฤดู​​หนาว โดยเมืองใหญ่ๆที่อยู่ใกล้เมืองนี้คือเมืองลูเซิร์นและเมืองซูริค สำหรับบรรยากาศภายในเมืองนั้นค่อนข้างเงียบสงบ โดยในช่วงฤดู​​ร้อนจะมีกิจกรรมท่องเที่ยวสำคัญๆได้แก่ การเดินทางไกล, ขี่ม้า และขี่จักรยานภูเขา ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะเป็นการเล่นสกี การลากเลื่อนหิมะ และอื่นๆ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจากนั้นนำท่านสู่ยอดเขาทิตลิส (TITLIS) แหล่งเล่นสกีของสวิตเซอร์แลนด์ภาคกลาง ที่หิมะคลุมตลอดทั้งปีสูงถึง 10,000 ฟิต หรือ 3,020 เมตร บนยอดเขาแห่งนี้หิมะจะไม่ละลายตลอดทั้งปี นั่งกระเช้ายักษ์ที่หมุนได้รอบทิศเครื่องแรกของโลกที่ชื่อว่า REVOLVING ROTAIRจนถึงสถานีบนยอดเขาทิตลิสหลังจากนั้นให้ท่านได้สนุกกับกิจกรรมบนยอดเขาแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นการ ชมถ้ำน้ำแข็งซึ่งเป็นถ้ำที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ภายในเป็นผนังน้ำแข็งพร้อมมีคำอธิยายเป็นจุด ๆ หรือสามารถเดินไปยัง TITLIS CLIFF WALKสะพานแขวนบนยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปรวมถึงการเลือกซื้อสินค้าที่ ร้านขายของที่ระลึกและ ลานหิมะซึ่งเป็นชั้นบนสุดซึ่งจะเป็นชั้นที่ท่าสามารถเดินย่ำหิมะออกไปยังลานกว้างซึ่งเป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับลงจากยอดเขาสู่เมืองแองเกิลเบิร์ก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณTerrace Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่สาม ลูเซิร์น-สะพานไม้ชาเปล-รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน-เมืองเซนต์กัลเลน (สวิสฯ)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น  อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่มนำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับสะพานไม้ชาเปล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด นำท่านชมรูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จากนั้นเดินทางสู่เมืองเซนต์กัลเลน (St. Gallen)เป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับชื่อมาจากนักบุญ Gallus ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในชุมชนเล็กๆเมื่อศตวรรษที่ 7 แต่ปัจจุบันนี้กลายเป็นศูนย์กลางวงการแฟชั่นเสื้อผ้าของสวิสเซอร์แลนด์ นำท่านชมเขตเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนสมัยเก่าเป็นแบบเฉพาะของสไตล์บาร็อค เป็นแบบเฉพาะของสไตล์บาร็อคจากนั้นนำท่านถ่ายรูปมหาวิหารเซนต์กัลเลน และ ห้องสมุดแอบบีย์ห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์และเป็นห้องสมุดทางศาสนาคริสต์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจากนั้นให้ท่านได้เดินเลือกซื้อสินค้าต่างๆมากมายบนถนน Spisergasseเป็นอีกหนึ่งถนนที่มีอาคาร บ้านเรือนสไตล์บาร็อคสวยงามตลอดเส้นทาง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พักณ Radisson Blu Hotel St. Gallen หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่ เมืองคูร์-BERNINA EXPRESS-เซนต์มอริตส์-โคโม่ (สวิสฯ-อิตาลี)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคูร์ (Chur) เมืองเก่าริมแม่น้ำไรน์ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี ถือเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตฯ ถึงจะเป็นเมืองเก่าแก่แต่ก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี มีเสน่ห์ในสไตล์เมืองเก่า ทุกอย่างภายในเมืองไม่ว่าจะเป็นลักษณะอาคาร ลวดลายต่างๆในเมือง 

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถไฟ BERNINA EXPRESSหนึ่งในเส้นทางของรถไฟGlacier Expressซึ่งเป็นรถไฟด่วนที่ช้าที่สุดเพื่อให้ท่านสัมผัสบรรยากาศเส้นทางรถไฟที่เก่าแก่และสวยงาม เป็นเส้นทางมีชื่อเสียงมากที่สุดของ Switzerland ที่ตู้โดยสารเป็นแบบ panoramic ให้ได้ชื่นชมทิวทัศน์สองข้างทางที่สวยงามราวกับสรวงสวรรค์ โดยจุดหมายปลายทางของจะอยู่ที่เมืองเซนต์มอริตส์ (St. Moritz) เป็นเมืองรีสอร์ทหรูในหุบเขาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูงที่ 1775 ม. เหนือน้ำทะเล ซึ่งทางตะวันออกของเทือกเขามียอดภูเขา Piz Bernina ตระหง่านสูงที่สุด ที่ระดับ 4049 ม. อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้เพียงไม่กี่กิโลเมตร เซนต์มอริตส์ แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่อยู่บนเขา และส่วนที่ราบโดยมีทะเลสาบขั้นอยู่ตรงกลางหลังจากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองโคโม เป็นเมืองในแคว้นลอมบาร์เดีย ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โคโมเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ทิศเหนือของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบโคโม โคโมเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่ง เป็นแหล่งรวมชิ้นงานศิลปะชื่อดัง, มีโบสถ์, พิพิธภัณฑ์, สวน, โรงละคร, วังเก่าอยู่มากมาย โดยในปี 2013 โกโมมีจำนวนผู้มาพำนักค้างคืนถึง 215,000 คน ถือเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของแคว้นลอมบาร์เดียรองจากมิลาน, แบร์กาโม และเบรชชา
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Just Hotel Lomazzo Fieraหรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า โคโม่-ทะเลสาบโคโม่-มิลาน-มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (อิตาลี)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเล่นบริเวณทะเลสาบโคโม (Lago di Como) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดของอิตาลี ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองโคโม ในแคว้นลอมบาร์เดีย ทางเหนือของประเทศอิตาลี บริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบโคโมล้อมรอบด้วยภูเขาสูงที่ยังมีป่าไม้เขียวชะอุ่ม หลายจุดบนชายฝั่งเป็นช่องเขาแคบและหน้าผาที่สวยงาม ทางเหนือของทะเลสาบคือเทือกเขาแอลป์ยาวเหยียดสุดสายตาเป็นกำแพงธรรมชาติที่สร้างฉากหลังอันงดงามอลังการให้กับดินแดนบริเวณนี้ เทือกเขาแอลป์นั้นมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดปี จึงทำให้สามารถเล่นสกีหิมะได้ตลอดเวลา นี่คือจุดดึงดูงให้ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาท่องเที่ยวพักผ่อนกันอย่างไม่ขาดสายหลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมิลาน (MILAN) เมืองสำคัญทาง ภาคเหนือของอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ชื่อเมืองมิลานมาจากภาษาเซลต์คำว่า MID-LAN ซึ่งหมายถึงอยู่กลางที่ราบ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza Del Duomo) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่าดูโอโม่ (DUOMO)ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้น ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า "มหาวิหารเม่น" มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า และบริเวณนั้นยังเป็นศูนย์กลางแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัยและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งมีจำหน่ายมากมายในบริเวณ กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Klima Hotel Milano Fiereหรือระดับเดียวกัน

วันที่หก มิลาน-เจนัว-McArthurGlen Outlet-สนามบิน-ดูไบ (อิตาลี – ยูเออี)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเจนัว เมืองใหญ่สุดของ อิตาลีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ อาจเป็นจุดแรกที่จุดประกายความหวังและจิตนาการของโคลัมบัสที่จะก้าวผ่านผืนน้ำกว้างใหญ่ไปยังโลกที่เขาใฝ่ฝัน นำท่านถ่ายรูปบริเวณอ่าวเจนัว อันเป็นท่าเทียบเรือสาราญ เรือยอชท์หรู เรือใบสีขาวละลานตา และยังคงมีเรือโบราณจาลองขนาดยักษ์ ดูปืนไฟ สลักเสลาด้วยรูปปั้นอันวิจิตรคล้ายย้ำเตือนให้ระลึกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของชาวเมืองเจนัวคน นำท่านถ่ายรูปด้านหน้า

มหาวิหารซานลอเรนโซ หรือ ดูโอโม่ที่สร้างขึ้นในแบบโรมันเนสค์และโกธิค ในสมัยศตวรรษที่ 12-14 และน้ำพุ กลางเมือง นำท่านเยี่ยมชม เปียซซ่า เฟร์ รารี่ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นบริเวณที่โคลัมบัสเคยอาศัยอยู่เมื่อครั้งตอนเด็กๆ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัยจากนั้นนำท่านเดินทางสู่Serravalle Designer Outletเป็นสถานที่ที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากหลากหลายเมืองและจากดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าของอิตาลี มีร้านค้าแฟชั่นและสินค้าต่างๆกว่า 180 ร้าน ทั้ง Versace, Dolce & Gabbana, Prada, Roberto Cavalli, Bulgari, Trussardi, Calvin Klein ,Diesel,Camper,Furla, Moschino, Bulgari, Bose, และอื่นๆ โดยสินค้าแฟชั่นจะลดราคาตั้งแต่ 30% - 70% ตลอดทั้งปีอิสระอาหารกลางวันเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน
22.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK092(บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่เจ็ด ดูไบ-กรุงเทพฯ (ยูเออี-ไทย)
06.25 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK 372

(บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
19.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ 

20 มีนาคม - 18 กันยายน 2562

วันเดินทาง

สายการบินเอมิเรตส์ (Emirates)

สายการบิน

รหัส : Ek018

โปรแกรมทัวร์ : สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี 7 วัน

รายละเอียดโปรแกรม :  กรุงมิลาน แองเกล เบิร์ก ลูเซิร์น สะพานไม้ชาเปล ทะเลสาปโคโม่ ช้อปปิ้ง  Serravalle Designer Outlet 

** ขึ้นเขาทิตลิส และ รถไฟ Bernina Express

ราคาเริ่มต้น : 43,900 TH

line-logo.png

ดาวน์โหลดใบสั่งจองโปรแกรมทัวร์

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

6

2

1

3

5

4

6

Mt. Titlis in Switzerland.jpg
Lucerne_Wood_Bridge.jpg
rhb1435.jpg
Milan.jpg
มหาวิหารซานลอเรนโซ.jpg

7

วันแรก กรุงเทพฯ (ไทย)
18.00น. คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4ประตู 9แถว T สายการ

บินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
21.25น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK373 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่สอง ดูไบ-มิลาน-แองเกิลเบิร์ก-ยอดเขาทิตลิส (ดูไบ-อิตาลี-สวิสฯ)
00.50 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
03.35 น. ออกเดินทางสู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK101
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
08.15 น. เดินทางถึง เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมืองแองเกิลเบิร์ก ของสมาพันธรัฐสวิสระหว่างชมทิวทัศน์สองข้างทางและสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติแห่งสวิสเซอร์แลนด์ เมืองแองเกิลเบิร์ก เป็นอีกหนึ่งเมืองรีสอร์ทชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้ๆกับ"ภูเขาทิตลิส" (Mount Titlis) ภูเขาที่มียอดสูงจากระดับน้ำทะเลหนึ่งกว่า 10,000 ฟุต หรือ 3,020 เมตร ปัจจุบันเมืองแองเกิลเบิร์กได้กลายเป็นอีกหนึ่งอัลไพน์รีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้แล้วเมืองยังเป็นเสมือนแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ทั้งในช่วงฤดูร้อนทั้งสองและฤดู​​หนาว โดยเมืองใหญ่ๆที่อยู่ใกล้เมืองนี้คือเมืองลูเซิร์นและเมืองซูริค สำหรับบรรยากาศภายในเมืองนั้นค่อนข้างเงียบสงบ โดยในช่วงฤดู​​ร้อนจะมีกิจกรรมท่องเที่ยวสำคัญๆได้แก่ การเดินทางไกล, ขี่ม้า และขี่จักรยานภูเขา ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะเป็นการเล่นสกี การลากเลื่อนหิมะ และอื่นๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจากนั้นนำท่านสู่ยอดเขาทิตลิส (TITLIS) แหล่งเล่นสกีของสวิตเซอร์แลนด์ภาคกลาง ที่หิมะคลุมตลอดทั้งปีสูงถึง 10,000 ฟิต หรือ 3,020 เมตร บนยอดเขาแห่งนี้หิมะจะไม่ละลายตลอดทั้งปี นั่งกระเช้ายักษ์ที่หมุนได้รอบทิศเครื่องแรกของโลกที่ชื่อว่า REVOLVING ROTAIRจนถึงสถานีบนยอดเขาทิตลิสหลังจากนั้นให้ท่านได้สนุกกับกิจกรรมบนยอดเขาแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นการ ชมถ้ำน้ำแข็งซึ่งเป็นถ้ำที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ภายในเป็นผนังน้ำแข็งพร้อมมีคำอธิยายเป็นจุด ๆ หรือสามารถเดินไปยัง TITLIS CLIFF WALKสะพานแขวนบนยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปรวมถึงการเลือกซื้อสินค้าที่ ร้านขายของที่ระลึกและ ลานหิมะซึ่งเป็นชั้นบนสุดซึ่งจะเป็นชั้นที่ท่าสามารถเดินย่ำหิมะออกไปยังลานกว้างซึ่งเป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับลงจากยอดเขาสู่เมืองแองเกิลเบิร์ก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณTerrace Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่สาม ลูเซิร์น-สะพานไม้ชาเปล-รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน-เมืองเซนต์กัลเลน (สวิสฯ)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น  อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่มนำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับสะพานไม้ชาเปล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด นำท่านชมรูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จากนั้นเดินทางสู่เมืองเซนต์กัลเลน (St. Gallen)เป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับชื่อมาจากนักบุญ Gallus ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในชุมชนเล็กๆเมื่อศตวรรษที่ 7 แต่ปัจจุบันนี้กลายเป็นศูนย์กลางวงการแฟชั่นเสื้อผ้าของสวิสเซอร์แลนด์ นำท่านชมเขตเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนสมัยเก่าเป็นแบบเฉพาะของสไตล์บาร็อค เป็นแบบเฉพาะของสไตล์บาร็อคจากนั้นนำท่านถ่ายรูปมหาวิหารเซนต์กัลเลน และ ห้องสมุดแอบบีย์ห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์และเป็นห้องสมุดทางศาสนาคริสต์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจากนั้นให้ท่านได้เดินเลือกซื้อสินค้าต่างๆมากมายบนถนน Spisergasseเป็นอีกหนึ่งถนนที่มีอาคาร บ้านเรือนสไตล์บาร็อคสวยงามตลอดเส้นทาง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พักณ Radisson Blu Hotel St. Gallen หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่ เมืองคูร์-BERNINA EXPRESS-เซนต์มอริตส์-โคโม่ (สวิสฯ-อิตาลี)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคูร์ (Chur) เมืองเก่าริมแม่น้ำไรน์ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี ถือเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตฯ ถึงจะเป็นเมืองเก่าแก่แต่ก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี มีเสน่ห์ในสไตล์เมืองเก่า ทุกอย่างภายในเมืองไม่ว่าจะเป็นลักษณะอาคาร ลวดลายต่างๆในเมือง 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถไฟ BERNINA EXPRESSหนึ่งในเส้นทางของรถไฟGlacier Expressซึ่งเป็นรถไฟด่วนที่ช้าที่สุดเพื่อให้ท่านสัมผัสบรรยากาศเส้นทางรถไฟที่เก่าแก่และสวยงาม เป็นเส้นทางมีชื่อเสียงมากที่สุดของ Switzerland ที่ตู้โดยสารเป็นแบบ panoramic ให้ได้ชื่นชมทิวทัศน์สองข้างทางที่สวยงามราวกับสรวงสวรรค์ โดยจุดหมายปลายทางของจะอยู่ที่เมืองเซนต์มอริตส์ (St. Moritz) เป็นเมืองรีสอร์ทหรูในหุบเขาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูงที่ 1775 ม. เหนือน้ำทะเล ซึ่งทางตะวันออกของเทือกเขามียอดภูเขา Piz Bernina ตระหง่านสูงที่สุด ที่ระดับ 4049 ม. อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้เพียงไม่กี่กิโลเมตร เซนต์มอริตส์ แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่อยู่บนเขา และส่วนที่ราบโดยมีทะเลสาบขั้นอยู่ตรงกลางหลังจากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองโคโม เป็นเมืองในแคว้นลอมบาร์เดีย ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โคโมเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ทิศเหนือของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบโคโม โคโมเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่ง เป็นแหล่งรวมชิ้นงานศิลปะชื่อดัง, มีโบสถ์, พิพิธภัณฑ์, สวน, โรงละคร, วังเก่าอยู่มากมาย โดยในปี 2013 โกโมมีจำนวนผู้มาพำนักค้างคืนถึง 215,000 คน ถือเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของแคว้นลอมบาร์เดียรองจากมิลาน, แบร์กาโม และเบรชชา
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Just Hotel Lomazzo Fieraหรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า โคโม่-ทะเลสาบโคโม่-มิลาน-มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (อิตาลี)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเล่นบริเวณทะเลสาบโคโม (Lago di Como) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดของอิตาลี ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองโคโม ในแคว้นลอมบาร์เดีย ทางเหนือของประเทศอิตาลี บริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบโคโมล้อมรอบด้วยภูเขาสูงที่ยังมีป่าไม้เขียวชะอุ่ม หลายจุดบนชายฝั่งเป็นช่องเขาแคบและหน้าผาที่สวยงาม ทางเหนือของทะเลสาบคือเทือกเขาแอลป์ยาวเหยียดสุดสายตาเป็นกำแพงธรรมชาติที่สร้างฉากหลังอันงดงามอลังการให้กับดินแดนบริเวณนี้ เทือกเขาแอลป์นั้นมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดปี จึงทำให้สามารถเล่นสกีหิมะได้ตลอดเวลา นี่คือจุดดึงดูงให้ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาท่องเที่ยวพักผ่อนกันอย่างไม่ขาดสายหลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมิลาน (MILAN) เมืองสำคัญทาง ภาคเหนือของอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ชื่อเมืองมิลานมาจากภาษาเซลต์คำว่า MID-LAN ซึ่งหมายถึงอยู่กลางที่ราบ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza Del Duomo) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่าดูโอโม่ (DUOMO)ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้น ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า "มหาวิหารเม่น" มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า และบริเวณนั้นยังเป็นศูนย์กลางแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัยและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งมีจำหน่ายมากมายในบริเวณ กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Klima Hotel Milano Fiereหรือระดับเดียวกัน

วันที่หก มิลาน-เจนัว-McArthurGlen Outlet-สนามบิน-ดูไบ (อิตาลี – ยูเออี)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเจนัว เมืองใหญ่สุดของ อิตาลีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ อาจเป็นจุดแรกที่จุดประกายความหวังและจิตนาการของโคลัมบัสที่จะก้าวผ่านผืนน้ำกว้างใหญ่ไปยังโลกที่เขาใฝ่ฝัน นำท่านถ่ายรูปบริเวณอ่าวเจนัว อันเป็นท่าเทียบเรือสาราญ เรือยอชท์หรู เรือใบสีขาวละลานตา และยังคงมีเรือโบราณจาลองขนาดยักษ์ ดูปืนไฟ สลักเสลาด้วยรูปปั้นอันวิจิตรคล้ายย้ำเตือนให้ระลึกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของชาวเมืองเจนัวคน นำท่านถ่ายรูปด้านหน้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

มหาวิหารซานลอเรนโซ หรือ ดูโอโม่ที่สร้างขึ้นในแบบโรมันเนสค์และโกธิค ในสมัยศตวรรษที่ 12-14 และน้ำพุ กลางเมือง นำท่านเยี่ยมชม เปียซซ่า เฟร์ รารี่ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นบริเวณที่โคลัมบัสเคยอาศัยอยู่เมื่อครั้งตอนเด็กๆ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัยจากนั้นนำท่านเดินทางสู่Serravalle Designer Outletเป็นสถานที่ที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากหลากหลายเมืองและจากดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าของอิตาลี มีร้านค้าแฟชั่นและสินค้าต่างๆกว่า 180 ร้าน ทั้ง Versace, Dolce & Gabbana, Prada, Roberto Cavalli, Bulgari, Trussardi, Calvin Klein ,Diesel,Camper,Furla, Moschino, Bulgari, Bose, และอื่นๆ โดยสินค้าแฟชั่นจะลดราคาตั้งแต่ 30% - 70% ตลอดทั้งปีอิสระอาหารกลางวันเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน
22.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK092(บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่เจ็ด ดูไบ-กรุงเทพฯ (ยูเออี-ไทย)
06.25 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK 372

(บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
19.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ 

bottom of page