top of page

วันแรก กรุงเทพฯ (ไทย)
22.00 น. คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ  อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก 

วันที่สอง ดูไบ - เมืองเวนิส – ท่าเรือตรอนเคตโต้ – สะพานถอนหายใจ – จัตุรัสซานมาร์โค - โบสถ์ซานมาร์โค (ดูไบ-อิตาลี)
01.15 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK385 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
04.45 น.   เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
09.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK135  
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ) 

13.25 น. เดินทางถึง สนามบินมาร์โคโปโล เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเดินทางไปสู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ ล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส   สู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน  มีสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก"  มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือคาสโนว่านั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้ง โบสถ์ซานมาร์โค ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเดินเที่ยวชมเกาะอันสุดแสนโรแมนติกตามอัธยาศัย เช่น เดินเล่นชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โคที่สวยงาม,ช๊อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส เลือกซื้อสินค้าแฟชั่นชั้นนำ หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720 สมควรแก่เวลานำท่านล่องเรือเพื่อเดินทางกลับสู่ฝั่งเวนิสเมสเตร
อิสระอาหารค่ำบนเกาะเวนิสตามอัธยาศัยเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าของท่าน
ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พัก  ณ Bedbank Venice Mestre หรือระดับเดียวกัน

วันที่สาม เมืองพิราน – จัตุรัสตาร์ตินี – โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ – โบสถ์เซนต์ฟรังซิส – ถ้ำโพสทอยนา – เมืองลูบลิยานา สะพานมังกร - เพรเซเรน สแควร์ – ปราสาทลูบลิยานา ( สโลวีเนีย )
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองพิราน (Piran) เมืองสวยริมอ่าวพิราน เป็นจุดเด่นหนึ่งของชายฝั่งอะเดรียติกของประเทศสโลวีเนีย เมืองที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้เต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารที่มองเห็นวิวชายทะเลที่งดงามเป็นอย่างมาก เมืองนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเวนิส โดยมีกลิ่นอายของอิตาลีเล็กน้อยและมีผลงานสถาปัตยกรรมล้ำค่าที่ได้รับการดูแลอย่างสวยงาม นำท่านชมทัศนียภาพของอ่าวพิรานอ่าวตรีเอสเตและทะเลเอเดรียติกจากบริเวณริมน้ำของเมือง เดินลัดเลาะไปตามท่าจอดเรือที่จอดเรียงรายเป็นแถวยาวสวยงามและถ่ายรูปกับบ้านหลากหลายสีสันบริเวณหน้าหาด นำท่านเดินเข้าไปยังใจกลางเมืองที่งดงาทและมีเสน่ห์ และเงียบสงบท่ามกลางบ้านเรือนสีขาวหลังคากระเบื้องสีส้ม นำท่านชมจัตุรัสตาร์ตินี  เพื่อชมรูปปั้นบรอนซ์สมัยศตวรรษที่ 19 ของ   นักไวโอลินและนักประพันธ์เพลงจูเซปเป ตาร์ตินี จัตุรัสรูปวงรีแห่งนี้ยังมีศาลาว่าการเมืองสมัยศตวรรษที่ 19     อีกด้วย นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ โบสถ์เก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นช่วงปี ค.ศ. 1200 อัศจรรย์ใจไปกับภาพนูนที่น่าประทับใจของพระเยซูและนักบุญปีเตอร์เหนือทางเข้า ชื่นชมและเพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมโกธิกและอาคารบ้านเรือนสีแดงแบบศิลปะเวนิสที่อยู่ใกล้เคียงกัน 

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่ เมืองโพสทอยนา เมืองเล็กๆ ในประเทศสโลวีเนีย ที่มีชื่อเสียงทางด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นำท่านเข้าชม ถ้ำโพสทอยนา ถ้ำที่มีขนาดใหญ่และสวยที่สุดในยุโรป มีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี ภายในถ้ำมีหินอกหินย้อยหลากหลายแบบที่ระยิบระยับสวยงามแปลกตาและมีสีสันสวยงามสุดพรรณนา มีห้องต่างๆ มากมายภายในถ้ำลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ ราวกับวิมานเนรมิตเดินเท้าและนั่งรถไฟฟ้าภายในถ้ำ ชมปลามนุษย์อันมีชื่อเสียงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในถ้ำ ผิวสีเนื้อคล้ายมนุษย์ ลำตัวยาวคล้ายงูมีแขนและขา ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1768 อาศัยอยู่ในที่มืด ถ้ำแห่งนี้เปิดให้บริการกว่า 188 ปีแล้ว ภายในถ้ำมีทางเชื่อมต่อกันเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองลูบลิยานา เมืองหลวงที่น่าหลงไหลของสโลวีเนีย ดินแดนที่อยู่บริเวณยุโรปกลาง ด้วยความบอบช้ำจากสงครามและประวัติศาสตร์ที่สั่งสมมานานกว่าพันปี จึงทำให้สโลวีเนียกลายเป็นดินแดนที่มีความเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของยุโรปที่ชวนให้ระลึกถึงอิทธิพลของจักรวรรดิต่างๆ นำท่านเดินชม สะพานมังกร เป็นสะพานที่มีความโดดเด่นสะดุดตาบริเวณหัวสะพานที่มีการออกแบบสร้างเป็นรูปมังกรบินขนาดใหญ่ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นทางข้ามแม่น้ำลูบลิยานิกา ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 สมัยของกษัตริย์ฮังการี นับว่าเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป นำท่านผ่านชมปราสาทลูบลิยานา ที่ตั้งอยู่บนเขา เดิมเป็นป้อมปราการ สร้างในสมัยศตวรรษที่ 11 โดยเชื่อว่าสร้างโดยไม้และหินในระยะเริ่มแรก และถูกสร้างใหม่ในศตวรรษที่ 12 ในช่วงสมัย ราชา Ottokar II ของโบฮีเมียนและเปลี่ยนมาในสมัยของ Rudolph of Habsburg ภายหลังและในศตวรรษที่ 15 ก็ได้ถูกทำลายลงและสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง จากนั้นเดินชม ย่านทาวน์สแควร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์นิโคลัส  และชมสถาปัตยกรรมอันงดงามของตัวโบสถ์ ที่โดดเด่นด้วยยอดโดมสีเขียวและหอคอยคู่ที่อยู่เหนือหลังคาโบสถ์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านสู่ที่พัก M Hotel ljublijana หรือระดับเดียวกัน

.วันที่สี่ เมืองเบลด – โบสถ์พระแม่มารีย์ – ปราสาทเบลด – เมืองกราซ – ย่านเมืองเก่า - จัตุรัสเมนสแควร์ 

(สโลวีเนีย-ออสเตรีย)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบลด เมืองแห่งปราสาทกลางทะเลสาปสุดแสนโรแมนติก ท่ามกลางหุบเขาจูเลียนแอลป์ ประเทศสโลวีเนีย ทะเลสาปเบลดเกิดจากการละลายตัวของธารน้ำแข็งจากภูเขาจูเลียนแอลป์ และแหล่งน้ำธรรมชาติจากใต้ดินซึ่งทำให้น้ำในทะเลสาบนี้ใสบริสุทธิ์ ทะเลสาปเบลดมีเกาะตรงกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ โบสถ์พระแม่มารีย์ นำท่านเข้าชม โบสถ์พระแม่มารีย์ โดยการนั่งเรือไม้โบราณ ข้ามไปยังเกาะกลางทะเลสาบเบลด ของเหล่านักแสวงบุญตั้งแต่ศตวรรษที่ 13-14 จากท่าเรือจะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 99 ขั้นก็จะถึงยังตัวโบสถ์ มีประเพณีท้องถิ่นสโลวีเนียเชื่อกันว่าคู่สมรสใหม่ให้ฝ่าย ชายอุ้มฝ่ายหญิงปีนบันได 99 ขั้นนี้ และฝ่ายหญิงจะต้องไม่ส่งเสียงดังใดๆทั้งสิ้น ถ้าทำสำเร็จชีวิตสมรสจะรักกันยืนยาว และที่โบสถ์กลางน้ำยังมีกระดิ่งที่เชื่อกันว่าใครได้ไปสั่นกระดิ่งแล้วจะโชคดี  จากนั้นนำท่านเข้าชม ปราสาทเบลด ปราสาทแสนสวยที่ตั้งอยู่บนริมผา ติดกับทะเลสาบเป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งจักรพรรดิ์เฮนริคที่ 2 แห่งเยอรมันยกให้เป็นสถานที่พักของบิชอป อัลเบี่ยม แห่งบริเซนในปี ค.ศ.1004 

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่ เมืองกราซ เมืองมรดกโลกของออสเตรีย ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรีย เมืองการศึกษาที่มีมหาวิทยาลัยกว่า 6 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดก่อตั้งในปี ค.ศ. 1585 ชื่อเมือง "กราซ" หมายถึง "ปราสาทน้อย" ในอดีต เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านทางใต้จึงต้อง ทำสงครามกับกองทัพเติร์ก  ตัวเมืองเก่าได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้และในปี ค.ศ. 2003 ได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงด้านวัฒนธรรมของยุโรป นอกจากนั้นเมืองแห่งนี้ยังเป็นเมืองเกิดของพระเอกฮอลลีวู้ดชื่อ ดังอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ อีกด้วย นำท่านเดินชม ย่านเมืองเก่า ซึ่งรอดพ้นจากการถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เปรียบเสมือนอัญมณีใจกลางเมืองเป็นย่านเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสเมนสแควร์ ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นจัตุรัสตลาดหลักตั้งแต่ช่วงต้นสมัยกลาง และกลายเป็นจุดศูนย์ รวมของเมืองนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถนนสายหลักทั้งหมดในย่านใจกลางเมือง อาคารหลังเด่นบนจตุรัสเมนสแควร์ คือ Rathaus หรือศาลากลาง สิ่งก่อสร้างใจกลางจตุรัสเมนสแควร์คือ น้ำพุ Erzherzog Johann จากศตวรรษที่ 19 ชื่นชมรูปปั้นอาร์ชดยุกแห่งฮับส์บูร์กขนาดใหญ่ ผู้ดำเนินงานปฏิรูปหลายครั้งและส่งผลประโยชน์ต่อเมืองกราซและรัฐสติเรีย นอกจากสถานที่เที่ยวชมเก่าแก่ต่างๆ และจตุรัสเมนสแควร์ ยังมีร้านจำหน่ายสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ที่มีชานหน้าร้านให้เลือกแวะอีกมากมาย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านสู่ที่พัก Hotel Ramada Graz หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf – กรุงบูดาเปสต์ (ออสเตรีย-ฮังการี)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf ซึ่งแต่ละร้านลดราคาสินค้ามากถึง 70 เปอร์เซนต์ มีร้านค้ากว่า 170 ร้าน  ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น  GUCCI, BALLY, HUGO BOSS ,BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE , NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย (หากโปรแกรมตรงกับอาทิตย์ขอสงวนสิทธ์ในการสลับโปรแกรมไปอิสระช้อปปิ้งที่เวนิสในวันที่สามของการเดินทาง Noventa Di Piave Designer Outlet) 
**อิสระอาหารกลางวันเพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า**

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทาง กรุงบูดาเปสต์  ประเทศฮังการี ใจกลางกรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มีอารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ”  ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Park Inn Radisson Budapest หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก โบสถ์แมทเธียส - ป้อมชาวประมง (ฮังการี-ดูไบ)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่าน ชมบริเวณรอบนอก โบสถ์แมทเธียส ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทเธียส  ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมากและยังเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามในเมืองหลวงต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งสร้างในสไตล์นีโอ-โกธิกหลังคาสลับสีสวยงามอันเป็นจุดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 พระบรมรูปทรงม้า ผลงานประติมากรรมที่งดงามของศตวรรษที่ 11 อยู่หน้า ป้อมชาวประมง จุดชมวิวเหนือเมืองบูดาที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้อย่างดีป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน

15.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์  เที่ยวบินที่ EK 112  (บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
22.45 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง 

วันที่เจ็ด ดูไบ – กรุงเทพฯ 
03.00 น.    ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 384

(บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

12.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

12 มิถุนายน 2562 - 1 มกราคม 2563

วันเดินทาง

สายการบินเอมิเรตส์ (Emirates)

สายการบิน

รหัส : Ek020

โปรแกรมทัวร์ : อิตาลี ออสเตรีย สโลวาเนีย ฮังการี 7 วัน

รายละเอียดโปรแกรม :  เกาะเวนิส เมืองพิราน เมือง โพสทอยนา ถ้ำโพสทอยนา เมืองลูบลิยานา  ปราสาทเบลด

ราคาเริ่มต้น : 41,900 TH

line-logo.png

ดาวน์โหลดใบสั่งจองโปรแกรมทัวร์

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

6

2

1

3

5

4

6

bridge of sigh.jpg
Tartini Square +++s.jpg
Blde Castle +s.jpg
McArthurGlen Designer Outlet.jpg
Matthias Church.png

7

วันแรก กรุงเทพฯ (ไทย)
22.00 น. คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ  อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก 

วันที่สอง ดูไบ - เมืองเวนิส – ท่าเรือตรอนเคตโต้ – สะพานถอนหายใจ – จัตุรัสซานมาร์โค - โบสถ์ซานมาร์โค (ดูไบ-อิตาลี)
01.15 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK385 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
04.45 น.   เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
09.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK135  
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ) 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


13.25 น. เดินทางถึง สนามบินมาร์โคโปโล เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเดินทางไปสู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ ล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส   สู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน  มีสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก"  มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือคาสโนว่านั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้ง โบสถ์ซานมาร์โค ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเดินเที่ยวชมเกาะอันสุดแสนโรแมนติกตามอัธยาศัย เช่น เดินเล่นชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โคที่สวยงาม,ช๊อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส เลือกซื้อสินค้าแฟชั่นชั้นนำ หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720 สมควรแก่เวลานำท่านล่องเรือเพื่อเดินทางกลับสู่ฝั่งเวนิสเมสเตร
อิสระอาหารค่ำบนเกาะเวนิสตามอัธยาศัยเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าของท่าน
ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พัก  ณ Bedbank Venice Mestre หรือระดับเดียวกัน

วันที่สาม เมืองพิราน – จัตุรัสตาร์ตินี – โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ – โบสถ์เซนต์ฟรังซิส – ถ้ำโพสทอยนา – เมืองลูบลิยานา สะพานมังกร - เพรเซเรน สแควร์ – ปราสาทลูบลิยานา ( สโลวีเนีย )
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองพิราน (Piran) เมืองสวยริมอ่าวพิราน เป็นจุดเด่นหนึ่งของชายฝั่งอะเดรียติกของประเทศสโลวีเนีย เมืองที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้เต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารที่มองเห็นวิวชายทะเลที่งดงามเป็นอย่างมาก เมืองนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเวนิส โดยมีกลิ่นอายของอิตาลีเล็กน้อยและมีผลงานสถาปัตยกรรมล้ำค่าที่ได้รับการดูแลอย่างสวยงาม นำท่านชมทัศนียภาพของอ่าวพิรานอ่าวตรีเอสเตและทะเลเอเดรียติกจากบริเวณริมน้ำของเมือง เดินลัดเลาะไปตามท่าจอดเรือที่จอดเรียงรายเป็นแถวยาวสวยงามและถ่ายรูปกับบ้านหลากหลายสีสันบริเวณหน้าหาด นำท่านเดินเข้าไปยังใจกลางเมืองที่งดงาทและมีเสน่ห์ และเงียบสงบท่ามกลางบ้านเรือนสีขาวหลังคากระเบื้องสีส้ม นำท่านชมจัตุรัสตาร์ตินี  เพื่อชมรูปปั้นบรอนซ์สมัยศตวรรษที่ 19 ของ   นักไวโอลินและนักประพันธ์เพลงจูเซปเป ตาร์ตินี จัตุรัสรูปวงรีแห่งนี้ยังมีศาลาว่าการเมืองสมัยศตวรรษที่ 19     อีกด้วย นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ โบสถ์เก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นช่วงปี ค.ศ. 1200 อัศจรรย์ใจไปกับภาพนูนที่น่าประทับใจของพระเยซูและนักบุญปีเตอร์เหนือทางเข้า ชื่นชมและเพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมโกธิกและอาคารบ้านเรือนสีแดงแบบศิลปะเวนิสที่อยู่ใกล้เคียงกัน 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่ เมืองโพสทอยนา เมืองเล็กๆ ในประเทศสโลวีเนีย ที่มีชื่อเสียงทางด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นำท่านเข้าชม ถ้ำโพสทอยนา ถ้ำที่มีขนาดใหญ่และสวยที่สุดในยุโรป มีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี ภายในถ้ำมีหินอกหินย้อยหลากหลายแบบที่ระยิบระยับสวยงามแปลกตาและมีสีสันสวยงามสุดพรรณนา มีห้องต่างๆ มากมายภายในถ้ำลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ ราวกับวิมานเนรมิตเดินเท้าและนั่งรถไฟฟ้าภายในถ้ำ ชมปลามนุษย์อันมีชื่อเสียงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในถ้ำ ผิวสีเนื้อคล้ายมนุษย์ ลำตัวยาวคล้ายงูมีแขนและขา ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1768 อาศัยอยู่ในที่มืด ถ้ำแห่งนี้เปิดให้บริการกว่า 188 ปีแล้ว ภายในถ้ำมีทางเชื่อมต่อกันเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองลูบลิยานา เมืองหลวงที่น่าหลงไหลของสโลวีเนีย ดินแดนที่อยู่บริเวณยุโรปกลาง ด้วยความบอบช้ำจากสงครามและประวัติศาสตร์ที่สั่งสมมานานกว่าพันปี จึงทำให้สโลวีเนียกลายเป็นดินแดนที่มีความเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของยุโรปที่ชวนให้ระลึกถึงอิทธิพลของจักรวรรดิต่างๆ นำท่านเดินชม สะพานมังกร เป็นสะพานที่มีความโดดเด่นสะดุดตาบริเวณหัวสะพานที่มีการออกแบบสร้างเป็นรูปมังกรบินขนาดใหญ่ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นทางข้ามแม่น้ำลูบลิยานิกา ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 สมัยของกษัตริย์ฮังการี นับว่าเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป นำท่านผ่านชมปราสาทลูบลิยานา ที่ตั้งอยู่บนเขา เดิมเป็นป้อมปราการ สร้างในสมัยศตวรรษที่ 11 โดยเชื่อว่าสร้างโดยไม้และหินในระยะเริ่มแรก และถูกสร้างใหม่ในศตวรรษที่ 12 ในช่วงสมัย ราชา Ottokar II ของโบฮีเมียนและเปลี่ยนมาในสมัยของ Rudolph of Habsburg ภายหลังและในศตวรรษที่ 15 ก็ได้ถูกทำลายลงและสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง จากนั้นเดินชม ย่านทาวน์สแควร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์นิโคลัส  และชมสถาปัตยกรรมอันงดงามของตัวโบสถ์ ที่โดดเด่นด้วยยอดโดมสีเขียวและหอคอยคู่ที่อยู่เหนือหลังคาโบสถ์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านสู่ที่พัก M Hotel ljublijana หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่ เมืองเบลด – โบสถ์พระแม่มารีย์ – ปราสาทเบลด – เมืองกราซ – ย่านเมืองเก่า - จัตุรัสเมนสแควร์ 

(สโลวีเนีย-ออสเตรีย)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบลด เมืองแห่งปราสาทกลางทะเลสาปสุดแสนโรแมนติก ท่ามกลางหุบเขาจูเลียนแอลป์ ประเทศสโลวีเนีย ทะเลสาปเบลดเกิดจากการละลายตัวของธารน้ำแข็งจากภูเขาจูเลียนแอลป์ และแหล่งน้ำธรรมชาติจากใต้ดินซึ่งทำให้น้ำในทะเลสาบนี้ใสบริสุทธิ์ ทะเลสาปเบลดมีเกาะตรงกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ โบสถ์พระแม่มารีย์ นำท่านเข้าชม โบสถ์พระแม่มารีย์ โดยการนั่งเรือไม้โบราณ ข้ามไปยังเกาะกลางทะเลสาบเบลด ของเหล่านักแสวงบุญตั้งแต่ศตวรรษที่ 13-14 จากท่าเรือจะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 99 ขั้นก็จะถึงยังตัวโบสถ์ มีประเพณีท้องถิ่นสโลวีเนียเชื่อกันว่าคู่สมรสใหม่ให้ฝ่าย ชายอุ้มฝ่ายหญิงปีนบันได 99 ขั้นนี้ และฝ่ายหญิงจะต้องไม่ส่งเสียงดังใดๆทั้งสิ้น ถ้าทำสำเร็จชีวิตสมรสจะรักกันยืนยาว และที่โบสถ์กลางน้ำยังมีกระดิ่งที่เชื่อกันว่าใครได้ไปสั่นกระดิ่งแล้วจะโชคดี  จากนั้นนำท่านเข้าชม ปราสาทเบลด ปราสาทแสนสวยที่ตั้งอยู่บนริมผา ติดกับทะเลสาบเป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งจักรพรรดิ์เฮนริคที่ 2 แห่งเยอรมันยกให้เป็นสถานที่พักของบิชอป อัลเบี่ยม แห่งบริเซนในปี ค.ศ.1004 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่ เมืองกราซ เมืองมรดกโลกของออสเตรีย ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรีย เมืองการศึกษาที่มีมหาวิทยาลัยกว่า 6 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดก่อตั้งในปี ค.ศ. 1585 ชื่อเมือง "กราซ" หมายถึง "ปราสาทน้อย" ในอดีต เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านทางใต้จึงต้อง ทำสงครามกับกองทัพเติร์ก  ตัวเมืองเก่าได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้และในปี ค.ศ. 2003 ได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงด้านวัฒนธรรมของยุโรป นอกจากนั้นเมืองแห่งนี้ยังเป็นเมืองเกิดของพระเอกฮอลลีวู้ดชื่อ ดังอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ อีกด้วย นำท่านเดินชม ย่านเมืองเก่า ซึ่งรอดพ้นจากการถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เปรียบเสมือนอัญมณีใจกลางเมืองเป็นย่านเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสเมนสแควร์ ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นจัตุรัสตลาดหลักตั้งแต่ช่วงต้นสมัยกลาง และกลายเป็นจุดศูนย์ รวมของเมืองนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถนนสายหลักทั้งหมดในย่านใจกลางเมือง อาคารหลังเด่นบนจตุรัสเมนสแควร์ คือ Rathaus หรือศาลากลาง สิ่งก่อสร้างใจกลางจตุรัสเมนสแควร์คือ น้ำพุ Erzherzog Johann จากศตวรรษที่ 19 ชื่นชมรูปปั้นอาร์ชดยุกแห่งฮับส์บูร์กขนาดใหญ่ ผู้ดำเนินงานปฏิรูปหลายครั้งและส่งผลประโยชน์ต่อเมืองกราซและรัฐสติเรีย นอกจากสถานที่เที่ยวชมเก่าแก่ต่างๆ และจตุรัสเมนสแควร์ ยังมีร้านจำหน่ายสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ที่มีชานหน้าร้านให้เลือกแวะอีกมากมาย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านสู่ที่พัก Hotel Ramada Graz หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf – กรุงบูดาเปสต์ (ออสเตรีย-ฮังการี)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf ซึ่งแต่ละร้านลดราคาสินค้ามากถึง 70 เปอร์เซนต์ มีร้านค้ากว่า 170 ร้าน  ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น  GUCCI, BALLY, HUGO BOSS ,BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE , NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย (หากโปรแกรมตรงกับอาทิตย์ขอสงวนสิทธ์ในการสลับโปรแกรมไปอิสระช้อปปิ้งที่เวนิสในวันที่สามของการเดินทาง Noventa Di Piave Designer Outlet) 
**อิสระอาหารกลางวันเพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า**

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทาง กรุงบูดาเปสต์  ประเทศฮังการี ใจกลางกรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มีอารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ”  ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Park Inn Radisson Budapest หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก โบสถ์แมทเธียส - ป้อมชาวประมง (ฮังการี-ดูไบ)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่าน ชมบริเวณรอบนอก โบสถ์แมทเธียส ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทเธียส  ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมากและยังเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามในเมืองหลวงต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งสร้างในสไตล์นีโอ-โกธิกหลังคาสลับสีสวยงามอันเป็นจุดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 พระบรมรูปทรงม้า ผลงานประติมากรรมที่งดงามของศตวรรษที่ 11 อยู่หน้า ป้อมชาวประมง จุดชมวิวเหนือเมืองบูดาที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้อย่างดีป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


15.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์  เที่ยวบินที่ EK 112  (บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
22.45 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง 

วันที่เจ็ด ดูไบ – กรุงเทพฯ 
03.00 น.    ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 384

(บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

12.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

bottom of page