top of page

วันแรก กรุงเทพฯ  (ไทย)

22.00 น. คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ  อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง ดูไบ - จอร์แดน - มาดาบา - โบสถ์กรีกออโธดอกซ์ – เมาท์เนโบ – เมืองเครัค - เมืองอควาบา (ยูเออี- จอร์แดน)

01.35 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 385 (æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

04.45 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

07.30 น. เดินทางสู่เมืองอัมมาน ประเทศจอร์แดน โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK901 (æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

09.35 น. เดินทางถึง สนามบิน QUEEN ALIA กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมืองมาดาบา หรือ เมืองแห่งโมเสก เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งหนึ่งของประเทศจอร์แดน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 4,500 ปี นำท่านเข้าชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์ แห่งเซนต์จอร์จ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 600 ชมภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์ แห่งเยรูซาเลม ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ ประมาณ 2.3 ล้านชิ้นแสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เยรูซาเลม, แม่น้ำ จอร์แดน, ทะเลเดดซี, เขาไซนาย, อียิปต์ ฯลฯ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมาท์เนโบ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขาซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิตและฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวส์ ที่เดินทางจากอียิปต์มายังเยรูซาเลม ชมพิพิธภัณฑ์ซึ่งภายในเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบภายในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่ายต่าง ๆ ภาพถ่ายที่สำคัญคือภาพที่โป๊บ จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 2000 ชม อนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส ออกแบบเป็นลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูป ณ จุดชมวิว ท่านสามารถมองเห็น แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเจอริโก และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจนในวันที่เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหลังจากนั้นนำทางเดินทางสู่นำ เมืองเครัค ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ ชมทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขาทั้งสองข้าง ทางจนได้ฉายาเป็น “แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน” ชม ปราสาทเครัคแห่งครูเสด ที่สร้างอยู่บนยอดเขา ในปี ค.ศ. 1142 โดยกองทัพจากฝั่งยุโรปในอดีตเป็นเมืองศูนย์กลางขนาดใหญ่ของนักรบครูเสด และสร้างเพื่อควบคุมเส้นทางทั้งทางเหนือและใต้ และใช้ในการต่อสู้ในสงครามครูเสดกับกองทัพมุสลิม จนกระทั่งในปีค.ศ. 1189 ได้ถูกเข้ายึดครองโดยนักรบมุสลิม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอควาบา เมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญของประเทศจอร์แดนเป็นเมืองแห่งเดียวของประเทศจอร์แดนที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษี มีประชากรอาศัยราว 70,000 คน

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ã ณ Golden Tulip Hotel ระดับเดียวกัน

วันที่สาม เมืองอควาบา - เรือท้องกระจก – ทะเลทรายวาดิรัม – น้ำพุแห่งลอว์เรนซ์ - ภูเขาคาซารี (จอร์แดน)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นเดินทางสู่ท่าเรือบริเวณริ่มฝั่ง อ่าวอควาบา ซึ่งเป็นทางออกสู่ทะเลแดงที่มี่ชื่อเสียง ทะเลแดงเป็นทะเลแห่งประวัติสาสตร์ ที่ได้มีการกล่าวขานในพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ว่าทะเลแห่งนี้เป็นสถานที่โมเสสได้ทำอัศจรรย์โดยการชูไม้เท้าแหวกทะเลแดงเป็นทางเดินพาชาวอิสราเอลหนีให้รอดพ้นจากการตามล่าของทหารอิยิปต์เพื่อจับไปเป็นทาสของอียิปต์ และจุดมุ่งหมายเพื่อเดินทางไปสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญาที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้กับชาวอิสราเอล นั่นคือก็คือกรุงเยรูซาเลมในปัจจุบัน ทะเลแดงมีน่านน้ำครอบคลุมถึง 4 ประเทศ คือ ประเทศจอร์แดน, อิสราเอล, อิยิปต์และ ซาอุดิอาระเบีย นำท่าน ล่องเรือท้องกระจก ชมความใสของน้ำทะเล, ปะการัง, ปลาทะเลหลากชนิด, เม่นทะเล, แมงกะพรุน ฯลฯ

เที่ยง บริการอาหารกลางวันแบบบาร์บีคิว BBQ บุฟเฟต์บนเรือ พร้อมชมทัศนียภาพ และบรรยากาศของทะเลแดง หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวาน จากประเทศซาอุฯเดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ (เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียนก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่เมืองเพตร้า) ในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ระหว่างปีค.ศ. 1916–1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการรบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์และเจ้าชายไฟซาลผู้นำแห่งชาวอาหรับร่วมรบกันขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดนและต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนต์ ฮอลลีวูดอันยิ่งใหญ่ในอดีตเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA”พาชม “น้ำพุแห่งลอว์เรนซ์” ซึ่งเป็นสถานที่อดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พักและคิดแผนการต่อสู้กับออตโตมัน นำท่านท่องทะเลทรายโดยรถ 4WD ตะลุยทะเลทราย ต่อไปยัง ภูเขาคาซารี ชมภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ ที่เป็นภาพแกะสลักของชาวนาบาเทียน ที่แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจาวัน และรูปภาพต่างๆ ผ่านชมเต้นท์ชาวเบดูอินที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายเลี้ยงแพะเป็นอาชีพ ฯลฯ 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ แบบพื้นเมืองบุฟเฟต์สไตล์ชาวเบดูอิน ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชไปยัง เมืองเพตรา นำท่านเข้าสู่ที่พัก  ณ Panorama Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่ เมืองเพตรา - มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล คาซเนท์ – กรุงอัมมาน (จอร์แดน)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม เมืองเพตร้า (ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07) มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA) มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปีเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยทั้งชาวอีโดไมท์ จวบจนกระทั่งถึงยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูในการเข้ามาครอบครองดินแดนของชาว อาหรับเผ่าเร่ร่อน นาบาเทียน ในช่วงระหว่าง 100 ปี ก่อนคริสตกาล – ปี ค.ศ 100 และได้เข้ามาสร้างอาณาจักร, บ้านเมือง ฯลฯ จนกระทั่งในปีค.ศ. 106 นครแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมันที่นำโดยกษัตริย์ทราจัน และได้ผนึกเมืองแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในอาณาจักรโรมันแห่งแหลมอาระเบีตะวันออก นครเพต ร้าถึงคราวล่มสลายเมื่อหมดยุคของอาณาจักรโรมันทำให้ชาวเมืองนั้นละทิ้งบ้านเมืองจากกันไปหมดทิ้งให้เมืองแห่งนี้รกร้างไปพร้อมกับการพังทลายของเมือง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งจนสูญหายนับพันปี จวบจนในปี ค.ศ. 1812 นักสำรวจเส้นทางชาวสวิส นาย โจฮันน์ ลุดวิก เบิร์กฮาดท์ ได้ค้นพบนครศิลาแห่งนี้ และนำไปเขียนในหนังสือชื่อ “TRAVEL IN SYRIA” จนทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน นำท่าน ขี่ม้า ประมาณ 800 เมตรบนถนนทรายเพื่อตรงเข้าสู่หน้าเมือง พร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่ง (ค่าขี่ม้ารวมอยู่ในค่าบริการแล้ว และเป็นธรรมเนียมที่ต้องมีค่าทิปให้แก่เคนจูงม้าท่านละ 5 USD ต่อท่าน ต่อเที่ยว แต่ไม่รวมค่าขี่ลา, ขี่อูฐรถม้าลาก ฯลฯ หากสนในกรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์)

จากนั้นนำท่านเดินเท้าเข้าสู่ถนนเข้าเมือง SIQ เส้นทางมหัศจรรย์กว่า 1.5 กิโลเมตรที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างคล้ายกับแคนยอน น้อย ๆ และ สิ่งก่อสร้าง รูปปั้นแกะสลัก ต่างๆ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ, รูปกองคาราวานอูฐ, รูปชาวนาบาเทียน, ท่อส่งลำเลียงน้ำเข้าสู่เมือง ฯลฯ สุดปลายทางของช่องเขาพบกับความสวยงามของ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ ( EL-KHAZNEH / TREASURY) สันนิษฐานว่าจะสร้างในราวศตวรรษที่1-2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้น เป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และมีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อิยิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ ภายในประกอบด้วย 3 ห้อง คือ ห้องโถงใหญ่ตรงกลาง และ ห้องเล็กทางด้านซ้ายและขวาเดิมทีถูกเชื่อว่าเป็นที่เก็บขุมทรัพย์สมบัติของฟาโรห์อิยิปต์ แต่ภายหลังได้มีการขุดพบทางเข้าหลุมฝังศพที่หน้าวิหารแห่งนี้ ทำให้นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีได้ลงความเห็นตรงกันว่า น่าจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับผู้ปกครองเมือง, ใช้เป็นสถานที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นสุสานฝังศพของผู้ปกครองเมืองและเครือญาติ เดิมชมสุสานต่างๆ ของชาวนาบาเทียน, สุสานกษัตริย์ ฯลฯ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นอิสระให้ท่านเก็บภาพแห่งความประทับโดยรอบ นครเพตรา หรือเดินเข้าไปท้ายเมืองเพตรา โดยเดินขึ้นบันใดหิน ประมาณ 800 ขั้นขึ้นสู่ MONASTERY PETRA อารามหรือที่ประชุมลับของกษัตร์ยหรือผู้นำเมืองในสมัยก่อน ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ กรุงอัมมาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจอร์แดนที่ตั้งอยู่บนยอดเขาทั้ง 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์มากกว่า 6,000 ปี 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก  ณ Sparr Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า นครเจอราช – ซุ้มประตูกษัตรย์เฮเดรียนและสนามแข่งม้าฮิปโปโดรม – โอวาฟอรั่ม – วิหารเทพีอาร์เทมิส – ถนนคาร์โด -น้ำพุใจกลางเมือง – ทะเลเดดซี (จอร์แดน)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางไปยัง นครเจอราช หรือ เมืองพันเสา เป็นอดีต 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล เดิมทีในอดีตเมืองแห่งนี้ชื่อว่า ในปี ค.ศ. 749 นครแห่งนี้ได้ถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำลาย และถูกฝังกลบโดยทรายหลังจากนั้นก็ได้สูญหายไปเป็นนับพันปี ชม ซุ้มประตูกษัตรย์เฮเดรียนและสนามแข่งม้าฮิปโปโดรม นำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ ชม โอวาฟอรั่ม สถานที่ชุมนุมพบปะ สังสรรค์ของชาวเมืองวิหารเทพซีอุส โรงละครทางทิศใต้ สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92 จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน มีจุดเสียงสะท้อนตรงกลางโรงละคร เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์เพียงพูดเบาๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเราชม วิหารเทพีอาร์เทมิส เป็นเทพีประจำเมืองเจอราช สร้างในราวปี ค.ศ. 150 สร้างขึ้นพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีบวงสรวง และบูชายัญต่อเทพีองค์นี้ แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นในนำท่านเดินเข้าสู่ ถนนคาร์โด หรือ ถนนโคลอนเนด ถนนสายหลักที่ใช้เข้า-ออกเมืองแห่งนี้บนถนนนั้นยังมีริ้วรอยทางของล้อรถม้า ฝาท่อระบายน้ำ ซุ้มโคมไฟ บ่อน้ำดื่มของม้าชม น้ำพุใจกลางเมือง (NYMPHAEUM) สร้างในราวปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้ มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด และตกแต่งด้วยเทพต่างๆ ประจำซุ้มด้านบนของน้ำพุ 

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พักซึ่งอยู่บริเวณริมทะเลสาบเดดซี เพื่อเช็คอินและเก็บสัมภาระ จากนั้น สนุกสนานกับกิจกรรมในทะเสสาบเดดซี ทะเลสาบที่ตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างอิสราเอลและจอร์แดนเกิดจากน้ำที่ไหลมาจากลำธารในจอร์แดน มีส่วนผสมของโซเดียมและแมกนีเซียม ทาปฏิกิริยากับน้าพุร้อนที่อยู่ด้านล่างทะเลสาบ โดยมีความเค็ม มากกว่าทะเลอื่นถึง 4 เท่า มีความยาว 76 กิโลเมตร กว้างถึง 18 กิโลเมตร มีจุดลึกที่สุดคือ 400 เมตร และอยู่ต่ากว่าระดับน้าทะเล 417.5 เมตร นับเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก น้าในทะเลเดดซีมีความหนาแน่นมาก มีเกลือละลายในน้าถึง 25% จึงทาให้วัตถุลอยเหนือน้ำ แม้แต่คนว่ายน้าไม่เป็นก็ทะเลเดดซีที่ถูกบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก และ มีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำ ทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ เชิญท่านอิสระในการลงเล่นน้ำทะเลและพิสูจน์ความจริงว่าท่านลอยตัวได้จริงหรือไม่ (การลงเล่นน้ำในทะเลนั้นมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่างๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์) 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นให้ท่านได้ผักผ่อนตามอัธยาศัย  ณ Grand East Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก กรุงอัมมาน – โรงละครโรมัน – ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน - วิหารเฮอร์คิวลิส - ช้อปปิ้ง CITY MALL (จอร์แดน-ยูเออี)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นให้ท่านได้อิสระลงแช่น้ำในทะเลสาบเดดซี หรือ จะเลือกใช้บริการสระว่ายน้ำของโรงแรม หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเดดซีเช่น โคลน พอกตัว พอกหน้า สบู่ และสินค้าอื่นที่ทำจากเดดซีอีกมากมายตามอัธยาศัย ถึงเงลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ กรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน ถือเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน และมีความเก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของโลก นำท่านชม เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปี ผ่านชมย่าน เมืองเก่า, เมืองใหม่, ย่านธุรกิจ, ตลาดใจกลางเมือง, ย่านคนรวย ฯลฯ 

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน หรือ AMMAN CITADEL ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่างๆรอบเมือง อิสระทุกท่านชมบรรยากาศและถ่ายรูป มีจุดถ่ายรูปที่สวยโดยมีฉากหลังเป็น โรงละครโรมัน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจอร์แดน ที่จุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และตึกรามบ้านช่อง ที่สร้างบนภูเขาสูงอันเป็นที่แปลกตา ชม วิหารเฮอร์คิวลิส ที่สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161-180 ในสมัยโรมัน จากนั้นให้ทุกท่านอิสระเลือกชม ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก จากนั้นนำท่านชม วิหารเฮอร์ คิวลิส ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.162-166(พ.ศ.705-709) วิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าวิหารที่อยู่ในโรมโบราณเสียอีกเดินผ่านทางเข้าที่เป็นแนวเสาระเบียง ไปยงัสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ข้างใน จากนั้นเคลื่อนตัวไปที่หินขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณปลายหน้าผา ตรงนี้จะเป็นจุดชมวิว พาโนรามาอันสวยงามของเมือง ใกล้กันนั้นมีมือ รูปกำปั้นขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนเผยให้เห็นความขากโพลนจนแทนไม่มีเลือด จากนั้นผ่านชม พระราชวังของพระมหากษัตริย์ อับดลุลาห์ที่สอง ที่ตั้งอยู่บนภูเขามีทำเลที่สวยงามที่สุดในกรุงอัมมาน และมีทหารคอยเฝ้าดูแลตรวจตราอย่างเข้มงวด นำท่านอิสระเลือกซื้อของฝากที่ห้าง CITY MALL และอิสระอารเย็นตามอัธยาศัย ถึงแวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน

วันที่เจ็ด ดูไบ-กรุงเทพฯ (ยูเออี-ไทย)
02.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK906           (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
06.05 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง 
09.40 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
 19.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ 


      

ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่

วันเดินทาง

แอร์เอเชีย (Air Asia)

สายการบิน

รหัส : XJ110

โปรแกรมทัวร์ : ฮอกไกโด ทุ่งลาเวนเดอร์ 5 วัน

รายละเอียดโปรแกรม :  เทศกาลฤดู ลาเวนเดอร์ โทมิตะฟาร์ม ละลานตากับดอกไม้หลายหลายพันธ์ ชิคิไชโนะโอกะ สัมผัสบรรยากาศแสนโรแมนติก เมืองโอตารุ ช้อปปิ้งย่าง ทานุกิโคจิ มิตชุยเอ้าเลท

ราคาเริ่มต้น : 19,888 TH

line-logo.png

ดาวน์โหลดใบสั่งจองโปรแกรมทัวร์

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

1

2

3

4

5

วันแรก สนามบินดอนเมือง

20.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติดอนเมือง ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบิน AIR ASIA X เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

23.55 น.  ออกเดินทางสู่สนามบินชิโตเช่ เกาะฮอกไกโด ณ ประเทศญี่ปุ่น เที่ยวบินที่ XJ620

(บริการอาหารร้อน พร้อมเครื่องดื่ม บนเครื่อง)

วันที่สอง สนามบินชิโตเซะ – เมืองฟูราโน่ – ฟาร์มโทมิตะ – สวนชิคิไซโนะโอกะ – เนินเขาเซรุบุโนะโอะกะ – บ่อน้ำสีฟ้า – เมืองอาซาฮิคาว่า – อิออน ทาวน์

 08.20 น. เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากร  เรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟูราโน่ นำท่านเข้าชม ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) เป็นจุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุด มีวิวทิวทัศที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย อาทิ ซอฟท์ครีมลาเวนเดอร์ พุดดิ้งลาเวนเดอร์ เครื่องดื่มซ่าๆ อย่างโซดาลาเวนเดอร์และอีกมากมาย นอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องการปลูกลาเวนเดอร์แล้ว ฟาร์มโทมิตะยังมีการพัฒนาดอกไม้อีกหลากสายพันธุ์ให้ผลิดอกออกใบและสีสันที่สวยสดงดงาม ดังจะเห็นได้จากทุ่งดอกไม้ 7 สี หรือ ทุ่งอิโรโดริ (Irodori Field) ที่มีทั้งสีม่วง สีขาว สีแดง สีส้ม สีชมพู ฯลฯ งดงามดั่งสายรุ้งเลยทีเดียว

จากนั้นเดินทางสู่ สวนชิคิไซโนะโอกะ (Shikisai no oka) สวนดอกไม้สุดสวยแห่งเมืองบิเอะ ที่สวนแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เนินสี่ฤดู เนื่องจากมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์จัดเรียงสลับสีกันอย่างสวยงาม และดูได้ตลอดทุกฤดูกาลนั่นเอง สวนดอกไม้  ขนาดใหญ่มีพื้นที่ 7 เฮคเตอร์ ในช่วงฤดูร้อนเต็มไปด้วยดอกไม้ที่บานสะพรั่ง อิสระให้ท่านชมและเก็บภาพความสวยงามของดอกไม้นานาพรรณตามอัธยาศัย ณ สวนแห่งนี้ท่านสามารถเลือกเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การนั่งรถ Norokko (รถลากที่ถูกลากโดยรถแทร็คเตอร์) นั่งรถกอล์ฟสำหรับ 4 ท่าน หรือจะเลือกเล่นรถ ATV ก็ได้ (ราคาเครื่องเล่นไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 500-2000 เยน http://www.shikisainooka.jp/en/)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)

เดินทางสู่ เนินเขาเซรุบุโนะโอะกะ(Zerubu no Oka) ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสไม่ว่าจะเป็นดอกซัลเวีย ดอกพิทูเนีย หรือดอกแมร์รี่โกลด์ ทำให้มีชื่อเรียกว่า งานผ้าลายดอกไม้ อิสระให้ท่านชมความสวยงามตามอัธยาศัย หรือสามารถเสียค่าบริการเพิ่มเพื่อใช้บริการรถชมวิวได้ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่รวมค่าทัวร์)

เดินทางสู่ สระอะโออิเคะ (Aoiike) หรือ บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond) ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำ Bieigawa ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบิเอะ ตั้งชื่อตามสีของน้ำที่เกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาติ โดยเพิ่งเกิดขึ้นจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนภูเขาไฟ Tokachi ที่ปะทุขึ้นเมื่อปี 1988 ไหลเข้าสู่เมือง ไฮไลท์!!! ชมน้ำสีฟ้าที่สดใสเกินกว่าบ่อน้ำตามธรรมชาติทั่วไป และตอไม้สูงจำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นความใสแปลกตาที่แสนพิเศษของน้ำในบ่อ นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาซาฮิคาว่า เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโด อยู่ทางตอนกลางของเกาะได้ชื่อว่าหนาวเย็นที่สุดในฤดูหนาว ของประเทศญี่ปุ่น จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง ณ อิออน ทาวน์ (ตรงข้ามโรงแรม) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิกาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย ณ อิออน ทาวน์

ที่พัก CRESCENT ASAHIKAWA HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่สาม โอตารุ - คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี – โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ -  ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ – ร้านสินค้ามือสอง - ดิวตี้ฟรี - มิตชุยเอาเล้ตท์

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)

นำท่านสู่ เมืองโอตารุ โอตารุเป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร และบางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ ซึ่งเป็นแหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียง คลองโอตารุ หรือ โอตารุอุนงะ มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ ไฮไลท์!!! บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตรนำท่านเดินชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็น!!!ไฮไลท์ หนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมือง ชม โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ ตั้งอยู่ในเมืองโอตารุ เมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านการเป่าแก้วมายาวนาน โดยในอดีตนั้นจุดประสงค์ของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นทุ่นให้เรือ แต่ปัจจุบันนี้เป้าหมายของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นของใช้หรือของที่ระลึกแทน ซึ่งโรงเป่าแก้วคิตาอิชิเป็นโรงงานที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดของเมือง โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1901 ท่ามกลางโรงเป่าแก้วที่มีอยู่มากมาย และผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโรงงานแห่งนี้ก็คือโคมไฟแก้วและลูกบอลแก้วนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสอนวิธีการเป่าแก้วให้กับนักท่องเที่ยวด้วย เดินทางสู่ ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่ารักๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง คิตตี้ ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปตามอัธยาศัย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3) พิเศษ บริการท่านด้วยบุฟเฟ่ต์ชาบู+ขาปู

นำท่านช้อปปิ้ง ณ ร้านสินค้ามือสอง ภายในร้านจะมีจำหน่ายสินค้าสภาพดี อาทิ กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน เครื่องจามชาม ชุดกาแฟ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น อิสระช้อปปิ้ง ดิวตี้ฟรี (Duty Free) ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ทั้ง เสื้อผ้า น้ำหอม ต่างๆ ตามอัธยาศัยจากนั้นสู่ มิตชุยเอาเล้ตท์ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่แห่งแรกของฮอกไกโด มีสินค้าแบรนด์ต่างๆ จำหน่ายเสื้อผ้าผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก กระเป๋า รองเท้า และมีร้านอาหารให้เลือกมากมายอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็น ณ มิตซุยเอ้าเลท

ที่พัก SMILE SUSUKINO SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ อิสระช้อปปิ้งหรือท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ภายในซัปโปโร ตามอัธยาศัย

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)

หมายเหตุ!!! ในวันที่ปล่อยอิสระตามอัธยาศัย ไกด์จะพาท่านเดินทางไปเที่ยว ณ สถานที่นั้นๆ โดยอาจจะเดินทางโดยรถไฟ รถใต้ดิน หรือรถบัส โดยแต่ละท่านจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเดินทาง และค่าเข้าสถานที่ด้วยตัวท่านเอง **ไม่มีรถบัสบริการ**

ท่านสามารถอิสระท่องเที่ยวได้ตามอัธยาศัย หรือ ไกด์นำท่านเยี่ยมชมภายในตัวเมือง

ท่านสามารถนั่งรถรางชมเมืองซัปโปโระ ด้วยตัวเอง แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สามารถเลือกเที่ยวได้ใน 1 วัน

 - ตึกรัฐบาลเก่า                  - ช้อปปิ้งสึสึกิโนะ                  - ตลาดปลายามเช้า

 - หอนาฬิกา                     - ช้อปปิ้ง JR TOWER             - สวนสัตว์มารุยามะ

 - โรงงานเบียร์ซัปโปโระ          - ร้านร้อยเยน                     - จุดชมวิวบนเขาโอคุระ

 - สวนโอโดริ                     - โรงงานซ็อกโกแลต              - สวนสาธารณะโมเอะเระนุมะ

 - หอคอย ทีวีทาวเวอร์           - ตรอกราเมน                     - ภูเขาโมอิวะ

**อิสระรับประทานอาหาร กลางวัน และ เย็น ตามอัธยาศัย**

ที่พัก SMILE SUSUKINO SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า สนามบินชิโตเซ่ – กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)

สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบิน

10.00 น. เหินฟ้าสู่ เมืองไทย โดยสายการบินแอร์เอเซีย เที่ยวบินที่ XJ621

(บริการอาหารร้อน พร้อมเครื่องดื่ม บนเครื่อง)

15.50 น. เดินทางถึงเมืองไทย พร้อมกับความประทับใจเต็มเปี่ยม

ทุ่งลาเวนเดอร์.png
เมืองโอตารุ.jpg
ทานุกิโคจิ.jpg

6

วันแรก สนามบินดอนเมือง

20.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติดอนเมือง ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบิน AIR ASIA X เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

23.55 น.  ออกเดินทางสู่สนามบินชิโตเช่ เกาะฮอกไกโด ณ ประเทศญี่ปุ่น เที่ยวบินที่ XJ620

(บริการอาหารร้อน พร้อมเครื่องดื่ม บนเครื่อง)

วันที่สอง สนามบินชิโตเซะ – เมืองฟูราโน่ – ฟาร์มโทมิตะ – สวนชิคิไซโนะโอกะ – เนินเขาเซรุบุโนะโอะกะ – บ่อน้ำสีฟ้า – เมืองอาซาฮิคาว่า – อิออน ทาวน์

 08.20 น. เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากร  เรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟูราโน่ นำท่านเข้าชม ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) เป็นจุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุด มีวิวทิวทัศที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย อาทิ ซอฟท์ครีมลาเวนเดอร์ พุดดิ้งลาเวนเดอร์ เครื่องดื่มซ่าๆ อย่างโซดาลาเวนเดอร์และอีกมากมาย นอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องการปลูกลาเวนเดอร์แล้ว ฟาร์มโทมิตะยังมีการพัฒนาดอกไม้อีกหลากสายพันธุ์ให้ผลิดอกออกใบและสีสันที่สวยสดงดงาม ดังจะเห็นได้จากทุ่งดอกไม้ 7 สี หรือ ทุ่งอิโรโดริ (Irodori Field) ที่มีทั้งสีม่วง สีขาว สีแดง สีส้ม สีชมพู ฯลฯ งดงามดั่งสายรุ้งเลยทีเดียว

จากนั้นเดินทางสู่ สวนชิคิไซโนะโอกะ (Shikisai no oka) สวนดอกไม้สุดสวยแห่งเมืองบิเอะ ที่สวนแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เนินสี่ฤดู เนื่องจากมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์จัดเรียงสลับสีกันอย่างสวยงาม และดูได้ตลอดทุกฤดูกาลนั่นเอง สวนดอกไม้  ขนาดใหญ่มีพื้นที่ 7 เฮคเตอร์ ในช่วงฤดูร้อนเต็มไปด้วยดอกไม้ที่บานสะพรั่ง อิสระให้ท่านชมและเก็บภาพความสวยงามของดอกไม้นานาพรรณตามอัธยาศัย ณ สวนแห่งนี้ท่านสามารถเลือกเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การนั่งรถ Norokko (รถลากที่ถูกลากโดยรถแทร็คเตอร์) นั่งรถกอล์ฟสำหรับ 4 ท่าน หรือจะเลือกเล่นรถ ATV ก็ได้ (ราคาเครื่องเล่นไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 500-2000 เยน http://www.shikisainooka.jp/en/)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)

เดินทางสู่ เนินเขาเซรุบุโนะโอะกะ(Zerubu no Oka) ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสไม่ว่าจะเป็นดอกซัลเวีย ดอกพิทูเนีย หรือดอกแมร์รี่โกลด์ ทำให้มีชื่อเรียกว่า งานผ้าลายดอกไม้ อิสระให้ท่านชมความสวยงามตามอัธยาศัย หรือสามารถเสียค่าบริการเพิ่มเพื่อใช้บริการรถชมวิวได้ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่รวมค่าทัวร์)

เดินทางสู่ สระอะโออิเคะ (Aoiike) หรือ บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond) ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำ Bieigawa ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบิเอะ ตั้งชื่อตามสีของน้ำที่เกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาติ โดยเพิ่งเกิดขึ้นจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนภูเขาไฟ Tokachi ที่ปะทุขึ้นเมื่อปี 1988 ไหลเข้าสู่เมือง ไฮไลท์!!! ชมน้ำสีฟ้าที่สดใสเกินกว่าบ่อน้ำตามธรรมชาติทั่วไป และตอไม้สูงจำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นความใสแปลกตาที่แสนพิเศษของน้ำในบ่อ นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาซาฮิคาว่า เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโด อยู่ทางตอนกลางของเกาะได้ชื่อว่าหนาวเย็นที่สุดในฤดูหนาว ของประเทศญี่ปุ่น จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง ณ อิออน ทาวน์ (ตรงข้ามโรงแรม) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิกาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย ณ อิออน ทาวน์

ที่พัก CRESCENT ASAHIKAWA HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่สาม โอตารุ - คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี – โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ -  ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ – ร้านสินค้ามือสอง - ดิวตี้ฟรี - มิตชุยเอาเล้ตท์

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)

นำท่านสู่ เมืองโอตารุ โอตารุเป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร และบางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ ซึ่งเป็นแหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียง คลองโอตารุ หรือ โอตารุอุนงะ มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ ไฮไลท์!!! บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตรนำท่านเดินชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็น!!!ไฮไลท์ หนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมือง ชม โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ ตั้งอยู่ในเมืองโอตารุ เมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านการเป่าแก้วมายาวนาน โดยในอดีตนั้นจุดประสงค์ของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นทุ่นให้เรือ แต่ปัจจุบันนี้เป้าหมายของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นของใช้หรือของที่ระลึกแทน ซึ่งโรงเป่าแก้วคิตาอิชิเป็นโรงงานที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดของเมือง โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1901 ท่ามกลางโรงเป่าแก้วที่มีอยู่มากมาย และผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโรงงานแห่งนี้ก็คือโคมไฟแก้วและลูกบอลแก้วนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสอนวิธีการเป่าแก้วให้กับนักท่องเที่ยวด้วย เดินทางสู่ ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่ารักๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง คิตตี้ ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปตามอัธยาศัย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3) พิเศษ บริการท่านด้วยบุฟเฟ่ต์ชาบู+ขาปู

นำท่านช้อปปิ้ง ณ ร้านสินค้ามือสอง ภายในร้านจะมีจำหน่ายสินค้าสภาพดี อาทิ กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน เครื่องจามชาม ชุดกาแฟ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น อิสระช้อปปิ้ง ดิวตี้ฟรี (Duty Free) ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ทั้ง เสื้อผ้า น้ำหอม ต่างๆ ตามอัธยาศัยจากนั้นสู่ มิตชุยเอาเล้ตท์ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่แห่งแรกของฮอกไกโด มีสินค้าแบรนด์ต่างๆ จำหน่ายเสื้อผ้าผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก กระเป๋า รองเท้า และมีร้านอาหารให้เลือกมากมายอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็น ณ มิตซุยเอ้าเลท

ที่พัก SMILE SUSUKINO SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ อิสระช้อปปิ้งหรือท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ภายในซัปโปโร ตามอัธยาศัย

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)

หมายเหตุ!!! ในวันที่ปล่อยอิสระตามอัธยาศัย ไกด์จะพาท่านเดินทางไปเที่ยว ณ สถานที่นั้นๆ โดยอาจจะเดินทางโดยรถไฟ รถใต้ดิน หรือรถบัส โดยแต่ละท่านจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเดินทาง และค่าเข้าสถานที่ด้วยตัวท่านเอง **ไม่มีรถบัสบริการ**

ท่านสามารถอิสระท่องเที่ยวได้ตามอัธยาศัย หรือ ไกด์นำท่านเยี่ยมชมภายในตัวเมือง

ท่านสามารถนั่งรถรางชมเมืองซัปโปโระ ด้วยตัวเอง แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สามารถเลือกเที่ยวได้ใน 1 วัน

 - ตึกรัฐบาลเก่า                  - ช้อปปิ้งสึสึกิโนะ                  - ตลาดปลายามเช้า

 - หอนาฬิกา                     - ช้อปปิ้ง JR TOWER             - สวนสัตว์มารุยามะ

 - โรงงานเบียร์ซัปโปโระ          - ร้านร้อยเยน                     - จุดชมวิวบนเขาโอคุระ

 - สวนโอโดริ                     - โรงงานซ็อกโกแลต              - สวนสาธารณะโมเอะเระนุมะ

 - หอคอย ทีวีทาวเวอร์           - ตรอกราเมน                     - ภูเขาโมอิวะ

**อิสระรับประทานอาหาร กลางวัน และ เย็น ตามอัธยาศัย**

ที่พัก SMILE SUSUKINO SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า สนามบินชิโตเซ่ – กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)

สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบิน

10.00 น. เหินฟ้าสู่ เมืองไทย โดยสายการบินแอร์เอเซีย เที่ยวบินที่ XJ621

(บริการอาหารร้อน พร้อมเครื่องดื่ม บนเครื่อง)

15.50 น. เดินทางถึงเมืองไทย พร้อมกับความประทับใจเต็มเปี่ยม

bottom of page