top of page

วันแรก กรุงเทพฯ  (ไทย)

22.00 น. คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ  อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง ดูไบ - จอร์แดน - มาดาบา - โบสถ์กรีกออโธดอกซ์ – เมาท์เนโบ – เมืองเครัค - เมืองอควาบา (ยูเออี- จอร์แดน)

01.35 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 385 (æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

04.45 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

07.30 น. เดินทางสู่เมืองอัมมาน ประเทศจอร์แดน โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK901 (æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

09.35 น. เดินทางถึง สนามบิน QUEEN ALIA กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมืองมาดาบา หรือ เมืองแห่งโมเสก เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งหนึ่งของประเทศจอร์แดน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 4,500 ปี นำท่านเข้าชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์ แห่งเซนต์จอร์จ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 600 ชมภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์ แห่งเยรูซาเลม ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ ประมาณ 2.3 ล้านชิ้นแสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เยรูซาเลม, แม่น้ำ จอร์แดน, ทะเลเดดซี, เขาไซนาย, อียิปต์ ฯลฯ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมาท์เนโบ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขาซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิตและฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวส์ ที่เดินทางจากอียิปต์มายังเยรูซาเลม ชมพิพิธภัณฑ์ซึ่งภายในเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบภายในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่ายต่าง ๆ ภาพถ่ายที่สำคัญคือภาพที่โป๊บ จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 2000 ชม อนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส ออกแบบเป็นลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูป ณ จุดชมวิว ท่านสามารถมองเห็น แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเจอริโก และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจนในวันที่เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหลังจากนั้นนำทางเดินทางสู่นำ เมืองเครัค ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ ชมทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขาทั้งสองข้าง ทางจนได้ฉายาเป็น “แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน” ชม ปราสาทเครัคแห่งครูเสด ที่สร้างอยู่บนยอดเขา ในปี ค.ศ. 1142 โดยกองทัพจากฝั่งยุโรปในอดีตเป็นเมืองศูนย์กลางขนาดใหญ่ของนักรบครูเสด และสร้างเพื่อควบคุมเส้นทางทั้งทางเหนือและใต้ และใช้ในการต่อสู้ในสงครามครูเสดกับกองทัพมุสลิม จนกระทั่งในปีค.ศ. 1189 ได้ถูกเข้ายึดครองโดยนักรบมุสลิม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอควาบา เมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญของประเทศจอร์แดนเป็นเมืองแห่งเดียวของประเทศจอร์แดนที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษี มีประชากรอาศัยราว 70,000 คน

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ã ณ Golden Tulip Hotel ระดับเดียวกัน

วันที่สาม เมืองอควาบา - เรือท้องกระจก – ทะเลทรายวาดิรัม – น้ำพุแห่งลอว์เรนซ์ - ภูเขาคาซารี (จอร์แดน)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นเดินทางสู่ท่าเรือบริเวณริ่มฝั่ง อ่าวอควาบา ซึ่งเป็นทางออกสู่ทะเลแดงที่มี่ชื่อเสียง ทะเลแดงเป็นทะเลแห่งประวัติสาสตร์ ที่ได้มีการกล่าวขานในพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ว่าทะเลแห่งนี้เป็นสถานที่โมเสสได้ทำอัศจรรย์โดยการชูไม้เท้าแหวกทะเลแดงเป็นทางเดินพาชาวอิสราเอลหนีให้รอดพ้นจากการตามล่าของทหารอิยิปต์เพื่อจับไปเป็นทาสของอียิปต์ และจุดมุ่งหมายเพื่อเดินทางไปสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญาที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้กับชาวอิสราเอล นั่นคือก็คือกรุงเยรูซาเลมในปัจจุบัน ทะเลแดงมีน่านน้ำครอบคลุมถึง 4 ประเทศ คือ ประเทศจอร์แดน, อิสราเอล, อิยิปต์และ ซาอุดิอาระเบีย นำท่าน ล่องเรือท้องกระจก ชมความใสของน้ำทะเล, ปะการัง, ปลาทะเลหลากชนิด, เม่นทะเล, แมงกะพรุน ฯลฯ

เที่ยง บริการอาหารกลางวันแบบบาร์บีคิว BBQ บุฟเฟต์บนเรือ พร้อมชมทัศนียภาพ และบรรยากาศของทะเลแดง หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวาน จากประเทศซาอุฯเดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ (เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียนก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่เมืองเพตร้า) ในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ระหว่างปีค.ศ. 1916–1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการรบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์และเจ้าชายไฟซาลผู้นำแห่งชาวอาหรับร่วมรบกันขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดนและต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนต์ ฮอลลีวูดอันยิ่งใหญ่ในอดีตเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA”พาชม “น้ำพุแห่งลอว์เรนซ์” ซึ่งเป็นสถานที่อดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พักและคิดแผนการต่อสู้กับออตโตมัน นำท่านท่องทะเลทรายโดยรถ 4WD ตะลุยทะเลทราย ต่อไปยัง ภูเขาคาซารี ชมภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ ที่เป็นภาพแกะสลักของชาวนาบาเทียน ที่แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจาวัน และรูปภาพต่างๆ ผ่านชมเต้นท์ชาวเบดูอินที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายเลี้ยงแพะเป็นอาชีพ ฯลฯ 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ แบบพื้นเมืองบุฟเฟต์สไตล์ชาวเบดูอิน ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชไปยัง เมืองเพตรา นำท่านเข้าสู่ที่พัก  ณ Panorama Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่ เมืองเพตรา - มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล คาซเนท์ – กรุงอัมมาน (จอร์แดน)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม เมืองเพตร้า (ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07) มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA) มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปีเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยทั้งชาวอีโดไมท์ จวบจนกระทั่งถึงยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูในการเข้ามาครอบครองดินแดนของชาว อาหรับเผ่าเร่ร่อน นาบาเทียน ในช่วงระหว่าง 100 ปี ก่อนคริสตกาล – ปี ค.ศ 100 และได้เข้ามาสร้างอาณาจักร, บ้านเมือง ฯลฯ จนกระทั่งในปีค.ศ. 106 นครแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมันที่นำโดยกษัตริย์ทราจัน และได้ผนึกเมืองแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในอาณาจักรโรมันแห่งแหลมอาระเบีตะวันออก นครเพต ร้าถึงคราวล่มสลายเมื่อหมดยุคของอาณาจักรโรมันทำให้ชาวเมืองนั้นละทิ้งบ้านเมืองจากกันไปหมดทิ้งให้เมืองแห่งนี้รกร้างไปพร้อมกับการพังทลายของเมือง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งจนสูญหายนับพันปี จวบจนในปี ค.ศ. 1812 นักสำรวจเส้นทางชาวสวิส นาย โจฮันน์ ลุดวิก เบิร์กฮาดท์ ได้ค้นพบนครศิลาแห่งนี้ และนำไปเขียนในหนังสือชื่อ “TRAVEL IN SYRIA” จนทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน นำท่าน ขี่ม้า ประมาณ 800 เมตรบนถนนทรายเพื่อตรงเข้าสู่หน้าเมือง พร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่ง (ค่าขี่ม้ารวมอยู่ในค่าบริการแล้ว และเป็นธรรมเนียมที่ต้องมีค่าทิปให้แก่เคนจูงม้าท่านละ 5 USD ต่อท่าน ต่อเที่ยว แต่ไม่รวมค่าขี่ลา, ขี่อูฐรถม้าลาก ฯลฯ หากสนในกรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์)

จากนั้นนำท่านเดินเท้าเข้าสู่ถนนเข้าเมือง SIQ เส้นทางมหัศจรรย์กว่า 1.5 กิโลเมตรที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างคล้ายกับแคนยอน น้อย ๆ และ สิ่งก่อสร้าง รูปปั้นแกะสลัก ต่างๆ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ, รูปกองคาราวานอูฐ, รูปชาวนาบาเทียน, ท่อส่งลำเลียงน้ำเข้าสู่เมือง ฯลฯ สุดปลายทางของช่องเขาพบกับความสวยงามของ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ ( EL-KHAZNEH / TREASURY) สันนิษฐานว่าจะสร้างในราวศตวรรษที่1-2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้น เป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และมีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อิยิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ ภายในประกอบด้วย 3 ห้อง คือ ห้องโถงใหญ่ตรงกลาง และ ห้องเล็กทางด้านซ้ายและขวาเดิมทีถูกเชื่อว่าเป็นที่เก็บขุมทรัพย์สมบัติของฟาโรห์อิยิปต์ แต่ภายหลังได้มีการขุดพบทางเข้าหลุมฝังศพที่หน้าวิหารแห่งนี้ ทำให้นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีได้ลงความเห็นตรงกันว่า น่าจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับผู้ปกครองเมือง, ใช้เป็นสถานที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นสุสานฝังศพของผู้ปกครองเมืองและเครือญาติ เดิมชมสุสานต่างๆ ของชาวนาบาเทียน, สุสานกษัตริย์ ฯลฯ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นอิสระให้ท่านเก็บภาพแห่งความประทับโดยรอบ นครเพตรา หรือเดินเข้าไปท้ายเมืองเพตรา โดยเดินขึ้นบันใดหิน ประมาณ 800 ขั้นขึ้นสู่ MONASTERY PETRA อารามหรือที่ประชุมลับของกษัตร์ยหรือผู้นำเมืองในสมัยก่อน ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ กรุงอัมมาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจอร์แดนที่ตั้งอยู่บนยอดเขาทั้ง 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์มากกว่า 6,000 ปี 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก  ณ Sparr Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า นครเจอราช – ซุ้มประตูกษัตรย์เฮเดรียนและสนามแข่งม้าฮิปโปโดรม – โอวาฟอรั่ม – วิหารเทพีอาร์เทมิส – ถนนคาร์โด -น้ำพุใจกลางเมือง – ทะเลเดดซี (จอร์แดน)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางไปยัง นครเจอราช หรือ เมืองพันเสา เป็นอดีต 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล เดิมทีในอดีตเมืองแห่งนี้ชื่อว่า ในปี ค.ศ. 749 นครแห่งนี้ได้ถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำลาย และถูกฝังกลบโดยทรายหลังจากนั้นก็ได้สูญหายไปเป็นนับพันปี ชม ซุ้มประตูกษัตรย์เฮเดรียนและสนามแข่งม้าฮิปโปโดรม นำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ ชม โอวาฟอรั่ม สถานที่ชุมนุมพบปะ สังสรรค์ของชาวเมืองวิหารเทพซีอุส โรงละครทางทิศใต้ สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92 จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน มีจุดเสียงสะท้อนตรงกลางโรงละคร เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์เพียงพูดเบาๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเราชม วิหารเทพีอาร์เทมิส เป็นเทพีประจำเมืองเจอราช สร้างในราวปี ค.ศ. 150 สร้างขึ้นพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีบวงสรวง และบูชายัญต่อเทพีองค์นี้ แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นในนำท่านเดินเข้าสู่ ถนนคาร์โด หรือ ถนนโคลอนเนด ถนนสายหลักที่ใช้เข้า-ออกเมืองแห่งนี้บนถนนนั้นยังมีริ้วรอยทางของล้อรถม้า ฝาท่อระบายน้ำ ซุ้มโคมไฟ บ่อน้ำดื่มของม้าชม น้ำพุใจกลางเมือง (NYMPHAEUM) สร้างในราวปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้ มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด และตกแต่งด้วยเทพต่างๆ ประจำซุ้มด้านบนของน้ำพุ 

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พักซึ่งอยู่บริเวณริมทะเลสาบเดดซี เพื่อเช็คอินและเก็บสัมภาระ จากนั้น สนุกสนานกับกิจกรรมในทะเสสาบเดดซี ทะเลสาบที่ตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างอิสราเอลและจอร์แดนเกิดจากน้ำที่ไหลมาจากลำธารในจอร์แดน มีส่วนผสมของโซเดียมและแมกนีเซียม ทาปฏิกิริยากับน้าพุร้อนที่อยู่ด้านล่างทะเลสาบ โดยมีความเค็ม มากกว่าทะเลอื่นถึง 4 เท่า มีความยาว 76 กิโลเมตร กว้างถึง 18 กิโลเมตร มีจุดลึกที่สุดคือ 400 เมตร และอยู่ต่ากว่าระดับน้าทะเล 417.5 เมตร นับเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก น้าในทะเลเดดซีมีความหนาแน่นมาก มีเกลือละลายในน้าถึง 25% จึงทาให้วัตถุลอยเหนือน้ำ แม้แต่คนว่ายน้าไม่เป็นก็ทะเลเดดซีที่ถูกบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก และ มีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำ ทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ เชิญท่านอิสระในการลงเล่นน้ำทะเลและพิสูจน์ความจริงว่าท่านลอยตัวได้จริงหรือไม่ (การลงเล่นน้ำในทะเลนั้นมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่างๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์) 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นให้ท่านได้ผักผ่อนตามอัธยาศัย  ณ Grand East Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก กรุงอัมมาน – โรงละครโรมัน – ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน - วิหารเฮอร์คิวลิส - ช้อปปิ้ง CITY MALL (จอร์แดน-ยูเออี)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นให้ท่านได้อิสระลงแช่น้ำในทะเลสาบเดดซี หรือ จะเลือกใช้บริการสระว่ายน้ำของโรงแรม หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเดดซีเช่น โคลน พอกตัว พอกหน้า สบู่ และสินค้าอื่นที่ทำจากเดดซีอีกมากมายตามอัธยาศัย ถึงเงลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ กรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน ถือเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน และมีความเก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของโลก นำท่านชม เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปี ผ่านชมย่าน เมืองเก่า, เมืองใหม่, ย่านธุรกิจ, ตลาดใจกลางเมือง, ย่านคนรวย ฯลฯ 

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน หรือ AMMAN CITADEL ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่างๆรอบเมือง อิสระทุกท่านชมบรรยากาศและถ่ายรูป มีจุดถ่ายรูปที่สวยโดยมีฉากหลังเป็น โรงละครโรมัน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจอร์แดน ที่จุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และตึกรามบ้านช่อง ที่สร้างบนภูเขาสูงอันเป็นที่แปลกตา ชม วิหารเฮอร์คิวลิส ที่สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161-180 ในสมัยโรมัน จากนั้นให้ทุกท่านอิสระเลือกชม ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก จากนั้นนำท่านชม วิหารเฮอร์ คิวลิส ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.162-166(พ.ศ.705-709) วิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าวิหารที่อยู่ในโรมโบราณเสียอีกเดินผ่านทางเข้าที่เป็นแนวเสาระเบียง ไปยงัสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ข้างใน จากนั้นเคลื่อนตัวไปที่หินขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณปลายหน้าผา ตรงนี้จะเป็นจุดชมวิว พาโนรามาอันสวยงามของเมือง ใกล้กันนั้นมีมือ รูปกำปั้นขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนเผยให้เห็นความขากโพลนจนแทนไม่มีเลือด จากนั้นผ่านชม พระราชวังของพระมหากษัตริย์ อับดลุลาห์ที่สอง ที่ตั้งอยู่บนภูเขามีทำเลที่สวยงามที่สุดในกรุงอัมมาน และมีทหารคอยเฝ้าดูแลตรวจตราอย่างเข้มงวด นำท่านอิสระเลือกซื้อของฝากที่ห้าง CITY MALL และอิสระอารเย็นตามอัธยาศัย ถึงแวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน

วันที่เจ็ด ดูไบ-กรุงเทพฯ (ยูเออี-ไทย)
02.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK906           (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
06.05 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง 
09.40 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
 19.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ 


      

วันเดินทาง

ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่

แอร์เอเชีย (Air Asia)

สายการบิน

รหัส : XJ104

โปรแกรมทัวร์ : โอซาก้า เกียวโต ทาคายาม่า 6 วัน

รายละเอียดโปรแกรม : วัดคินคะคุจิ ศาลเจ้าจิ้งจอก ชิราคาวาโล ลิงภูเขา แช่ออนเซ็น ชมขั้นตอนการผลิตวาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เมืองแห่งสายน้ำ กุโจ ฮาจิมัน ปราทสาทโอซาก้า ช้อปปิ้งจุใจ มิตซุยเอาท์เล็ตพาร์ค แจ๊สท์ดรีม และชินโซบาชิ

ราคาเริ่มต้น : 26,888 TH

line-logo.png

ดาวน์โหลดใบสั่งจองโปรแกรมทัวร์

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

6

2

1

3

4

6

วันแรก กรุงเทพฯ  (ไทย)

22.30 น. พร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติดอนเมือง ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบิน AIR ASIA X เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

วันที่สอง  สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น - เมืองเกียวโต – แต่งกายด้วยชุดกิโมโน ชุดประจำชาติญี่ปุ่น - ศาลเจ้าเฮอัน – การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น - วัดคินคะคุจิ – นาโกย่า

01.15 น. เหินฟ้าสู่ เมืองคันไซ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ612

สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3  (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

08.40 น. เดินทางถึง สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)

เดินทางสู่ วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) เดิมสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นบ้านพักของท่านโชกุนอาชิกาก้า โยชิมิสุและท่านมีความตั้งใจยกบ้านพักแห่งนี้ให้เป็นวัดนิกายเซนภายหลังจากที่ท่านเสียชีวิต คนไทยนิยมเรียกกันว่า วัดทอง เนื่องจากที่วัดนี้จะมีอาคารหลักเป็นสีทองเกือบทั้งหลังตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ ทำให้เกิดเป็นเงาสะท้อนกับพื้นน้ำเบื้องหน้า จนเกิดเป็นภาพที่สวยงามเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองเกียวโต จากนั้นสู่ ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ (Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดง เป็นศาลเจ้าชินโต มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาสีแดงที่เรียงตัวกันจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กายจึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย พักที่ Toyoko Inn Nagoya Meieki Minami หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่สาม เมืองนาโกย่า - เมืองกุโจ ฮาจิมัน - เมืองทาคายาม่า – ซันมาชิซูจิ - ชิราคาวาโกะ - เมืองมัตสึโมโต้

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)

เดินทางสู่ เมืองกุโจ ฮาจิมัน (Gujo Hachiman) เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองแห่งน้ำ ชาวบ้านและวัฒนธรรมของที่นี่มีส่วนใกล้ชิดกับน้ำมาก เป็นแหล่งน้ำพุธรรมชาติ แม่น้ำที่สวยงาม จึงทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงทางด้านออนเซ็นด้วย เมื่อเดินเล่นไปในเมืองนี้จะสังเกตเห็นได้ว่ามีทางน้ำไหลผ่านทั่วทั้งเมือง รวมกันอยู่บริเวณนี้ อิสระให้ทานชมเมืองกุโจ (Gujo Town) ตามอัธยาศัย ให้ท่านเพลิดเพลินกับการชม พิพิธภัณฑ์เล็กๆ แกลเลอรี่ วัด ศาลเจ้า อีกทั้งยังมีเทศกาลเต้นรำฤดูร้อนอันโด่ง เรียกได้ว่าแหล่งท่องเที่ยวนี่มีครบทั้งสายชิล สายธรรมชาติ สายวัฒนธรรม (สถานที่ท่องเที่ยงบางแห่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ราคาไม่รวมกับค่าทัวร์)

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3)

เดินทางสู่ ทาคายาม่า (Takayama) เมืองเก่าแก่อยู่ในหุบเขาล้อมรอบด้วยเทือกเขาเจแปนแอลป์  ถูกขนานนามไว้ว่าเป็น ลิตเติ้ลเกียวโต หรือ เกียวโตน้อย เป็นเมืองเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งอารยธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีในอดีตของชาวญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์ บ้านเรือนสร้างขึ้นด้วยไม้แบบโบราณ บรรยากาศเก่าแก่ อายุเป็นร้อยๆปี มี วัด ศาลเจ้า สะพาน ตลาดเช้าที่คึกคักเต็มไปด้วยผู้คน ตัวเมืองสวยสะอาด ทันสมัย และมีสภาพธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ นำท่านเดนเล่น ชมบรรยากาศเมืองเก่าทาคายาม่าที่ ซันมาชิซูจิ (Sanmashi Suji) ย่านเมืองเก่าที่อนุรักษ์ความเป็นเอโดะเมื่อ 300 ปีก่อนได้เป็นอย่างดี ผ่านชม อาคารทาคายาม่าจินยะ (Takayama Jinya) อดีตทำหน้าที่เป็นสำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นประจำภูมิภาคฮิดะ ในสมัยการปกครองของโชกุนโทคุงาวะในปี 1692 จนกระทั่งปี 1969 จนถึงปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าชมห้องเสี่อทาทามิที่ได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดแสดงข้าวของและเอกสารทางการของขุนนางศักดินา แผนที่ภูมิภาคฮิดะ และประวัติศาสตร์แผนเมือง เป็นต้น (ไม่รวมค่าเข้า จ่ายเพิ่มประมาณ 430 เยน/ท่าน) นำท่านสู่ ชิราคาวาโกะ (Shirakawago) เมืองที่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีรูปร่างแปลกตาติดอันดับ The most beautiful village in Japan และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง HILIGHT!!! หมู่บ้านแบบกัชโชสึคุริ เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี คำว่า “กัชโช” มีความหมายว่า “พนมมือ” ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะ รูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้วยฟางข้าวที่ทำมุมชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่ประนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร ทั้งหลังถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ต่อมาในปี 1995 องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้ชิราคาวาโกะเป็นมรดกโลก เดินทางสู่เมืองมัตสึโมโต้

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย พักที่ Matsumoto Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่สี่ เมืองนากาโน่ – สวนลิงจิโกคุดานิ – ไร่วาซาบิไดโอะ -  มิตซุยเอาท์เล็ตพาร์ค แจ็สท์ดรีมนางาชิมะ – เมืองอิงะ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)

เดินทางสู่ เมืองนากาโน่ (Nagano) เป็นจังหวัดในภูมิภาค Chubu ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ทำให้มีอากาศหนาวเย็น และมีความสวยงามของธรรมชาติอย่างที่สุด ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาแห่งญี่ปุ่น เนื่องจากถูกรอบล้อมด้วยภูเขาสูง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park) ตั้งอยู่ท่ามกลาง หุบเขาจิโกคุดานิ (Jigokudani valley) ในยามาโนะอูจิ เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ลิงป่าลงมาอาบน้ำ และเป็นที่อยู่อาศัยของลิงหิมะชนิดนี้อีกด้วย ภายในพื้นที่สวนสาธารณะ มีสระว่ายน้ำที่สร้างขึ้นสำหรับเจ้าลิงทั้งหลาย ซึ่งจากประตูทางเข้าสวนเดินเข้าไปเพียง 5 นาที ไฮไลท์!! ท่านจะพบเห็นลิงตลอดสองข้างเส้นทางระหว่างที่ไปยังสระน้ำ โดยพวกมันจะจับกลุ่มกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ มีความคุ้นเคยกับมนุษย์ อิสระให้ท่านชมความน่ารักของลิงแช่ออนเซนในอิริยาบถต่างๆ ตามอัธยาศัย ข้อควรระมัดระวังห้ามเข้าไปจับหรือให้อาหารโดยเด็ดขาด

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5)

เดินทางสู่ ไร่วาซาบิไดโอะ (Daio Wasabi Farm) ไร่วาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สัมผัสขั้นตอนการผลิต ที่ทางไร่พิถีพิถันมากๆ กว่าจะได้เจ้าวาซาบิส่งตรงมาถึงผู้บริโภคได้ ไร่แห่งนี้นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสายไร่ที่ใครได้ลองมาต้องติดอกติดใจ ด้วยทำเลที่ตั้งการที่ทางไร่ใช้น้ำบริสุทธิ์จากลำธารที่ไหลมาจากเทือกเขาทางทิศเหนือ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกคือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ภายในนอกจากไร่วาซาบิแล้ว ยังมีร้านขายของ และร้านอาหารเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากวาซาบิอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวาซาบิสด วาซาบิดอง โซบะวาซาบิ แกงกะหรี่วาซาบิ ไส้กรอกวาซาบิ น้ำสลัดรสวาซาบิ เบียร์ที่ทำจากวาซาบิ น้ำวาซาบิ ไอศกรีมรสวาซาบิ ช็อกโกแลตรสวาซาบิ และอื่นๆอีกมากมาย อิสระตามอัธยาศัย จากนั้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ณ มิตซุยเอาท์เล็ตพาร์ค แจ็สท์ดรีมนางาชิมะ Mitsui Outlet Park – Just Dream Nagashima เอาท์เล็ตมอลล์ที่มีจำนวนร้านค้ามากที่สุดในญี่ปุ่น สินค้าที่นี่จำหน่ายในราคาลด 30 – 70% จากราคาปกติ ที่นี่มีศูนย์อาหารและลานกิจกรรมอยู่หลายจุดเหมือนกับเป็นธีมพาร์คแห่งหนึ่ง อิสระให้ท่านได้หาของถูกใจเป็นของฝาก ของที่ระลึก ในราคาสุดคุ้มตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัยที่พัก Ueno Frex Iga Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่ห้า เมืองอิงะ – เมืองโอซาก้า - ปราสาทโอซาก้า (ด้านนอก) – เอ็กซ์โปซิตี้ - ช้อปปิ้งชินไซบาชิ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโอซาก้า เดินทางสู่ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) (ด้านนอก) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโอซาก้า หอคอยปราสาทจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชั้น ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินคอนกรีต, คูน้ำ และสวนนิชิโนมารุซึ่งอยู่ทางป้อมตะวักตก มีต้นซากุระกว่า 600 ต้น ในช่วงเดือนเมษายนจึงเป็นแหล่งชมซากุระที่โด่งดังเพราะฉากด้านหลังของสวนแห่งนี้จะมองเห็นภาพปราสาทโอซาก้าที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

เที่ยง อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

นำท่านช้อปปิ้งกันต่อ ณ เอ็กซ์โปซิตี้ (Expo City) ที่เที่ยวแห่งใหม่ในโอซาก้า ศูนย์รวมความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เอ็กซ์โปซิตี้เป็นส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงงานเวิลด์เอ็กซ์โป ที่จัดขึ้นเมื่อปี 1970 ตั้งอยู่ในเมืองซุอิตะ จังหวัดโอซาก้า มีเนื้อที่ทั้งหมดราว ๆ 172,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่แห่งนี้มีแหล่งความบันเทิงมากมาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ fusing the enjoyment of playing, learning, and discovering อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งช้อปปิ้ง กินข้าว หรือแม้แต่ถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย

เอ็กซ์โปซิตี้ ได้แบ่งออกเป็น 8 โซนใหญ่ ๆ ด้วยกัน ดังนี้

  1. NIFREL พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ จัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ ในรูปแบบการนำเสนองานศิลปะ และยังให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด

  2. Osaka English Village ชุมชนสำหรับคนรักภาษาอังกฤษ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองต่าง ๆ จากทั่วทั้งอเมริกา

  3. Pokemon Expogym สวนสนุกของโปเกมอนแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณหลงใหลและผจญภัยไปกับการ์ตูนตัวโปรด

  4. Orbi สถานที่แห่งการเรียนรู้ธรรมชาติ

อิสระช้อปปิ้งย่าน ชินไซบาชิ Shinsaibashi บริเวณแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าปลีก ร้านแฟรนไชส์ ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านรองเท้า กระเป๋านาฬิกา ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้าสตรีทแบรนด์ทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ เช่น Zara H&M Beans ABC Mart เป็นต้น เรียกว่ามีทุกอย่างที่ต้องการรวมกันอยู่บริเวณนี้

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัยที่พัก Universal Hotel Reborn หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่หก สนามบินคันไซ –  สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (7)

09.50 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ613

13.50 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**


      

5

ศาลเจ้าจิ้งจอก1.jpg
ชิราคาวาโกะ.jpg
Daio Wasabi Farm.jpg
ปราสาทโอซาก้า.jpg
bottom of page