วันแรก กรุงเทพฯ
23.00 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก
วันที่สอง ดูไบ – ทบิลิซิ – วิหารซีโอนี
03.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 377 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
06.55 น. ถึงสนามบินเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
11.00 น. เดินทางสู่เมืองทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย โดยสายการบินฟลายดูไบ เที่ยวบินที่ EK 2200 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
14.30 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองทบิลิซี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำท่านสู่ เมืองทบิลิซี (Tbilisi) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่ระหว่างสองฝั่งแม่น้ำ คูรา Kuraหรือแม่น้ำซควารี Mtkvari ในภาษาถิ่น ก่อตั้งในราวศตวรรษที่ 5 เป็นเมืองหลวงสุดท้ายของอาณาจักรไอบีเรีย ที่อยู่รอดท่ามกลางสองอาณาจักรโรมัน และแซสซานิค กรุงทบิลิซีมีเนื้อที่ประมาณ 372 ตร.กม.และมีประชากร1,093,000 คน เมืองนี้ถูกสร้างโดย กษัตริย์วาคตัง จอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลีได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 4 เมืองทบิลิซิเป็นศูนย์กลางการทำอุตสาหกรรม สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคคอเคซัส ในประวัติศาสตร์เมืองนี้อยู่ในสายทางหนึ่งของเส้นทางสายไหม และปัจจุบันยังมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางการขนส่งและการค้า เนื่องจากความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในแง่ที่ตั้งที่เป็นจุดติดระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป นำท่านชม วิหารซีโอนี (Siony Cathedral) โบสถ์หลังใหญ่ของนิกายออร์โธด๊อกที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองนี้โดยชื่อของโบสถ์ได้นำมาจากดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์คือ ภูเขาไซออนในเจรูซาเล็ม ต่อมาสถานที่แห่งนี้ก็ได้มีชื่อเป็น ซิโอนีแห่งทบิลิซี (Tbilisi Sioni) ถูก สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6-7 และต่อมาก็ได้ถูกทำลายลงโดย ผู้ที่บุกรุกแต่ก็ได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน จนกระทั่งเป็นโบสถ์ทีได้เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้และได้มีการบูรณะในช่วงศตวรรษที่ 17-19
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Brim หรือเทียบเท่า
วันที่สาม ทบิลิซี – โบสถ์ตรีนิตี้ – โบสถ์เมทเทคี – โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน - Bridge ofPeace - เคเบิ้ลคาร์ชมป้อมปราการนาริกาลา - ร้าน Old Georgian Bakery Tone - Anchiskhati church – อนุสาวรีย์มารดาแห่งจอร์เจีย - Jan sharden street
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำชมโบสถ์ตรีนิตี้ (Holy Trinity Cathedral Of Tbilisi) หรือ ซามีบา (Sameba Chthedral) มีความหมายว่า โบสถ์พระตรีเอกานุภาพศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงทบิลิซี หรือ อารามซามีบา ชื่อเรียกของคนท้องถิ่น เป็นวิหารหลักของชาวคริสต์นิกายจอร์เจียนออร์โธด็อกซ์ในกรุงทบิลิซีก่อสร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ.1995 -2004 ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของศาสนสถานในนิกายออร์โธด๊อกซ์ตะวันออกทั่วโลกแม้จะมีอายุไม่มากแต่ก็เป็นโบสถ์ตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนท้องถิ่นที่มีรูปแบบทางศิลปะจากไบแซนไทน์โบสถ์เป็น อาคารขนาดใหญ่ที่โดดเด่นมาก จากนั้นนำชมโบสถ์เมทเทคี (Metekhi Church) เป็นโบสถ์เก่าแก่ในยุคศตวรรษที่ 13 ตั้งอยู่ในบริเวณเมืองเก่าในอดีตโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นป้อมที่ประทับของพระมหากษัตริย์และได้ใช้เป็นโบสถ์ของพระมหากษัตริย์อีกด้วย โบสถ์นี้มีลักษณะเป็นป้อมที่มียอดโดมแหลมขึ้นไปซึ่งเป็นที่นิยมก่อสร้างกันในยุคกลาง ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในช่วงยุคศตวรรษที่ 17 – 18 จากนั้นนำท่านไปยังเขตเมืองเก่า ชมบริเวณ โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน (Sulphur Baths) หรือภาษาจอร์เจียน เรียกว่า Abanotubani (อะบานูออูบานิ) เป็นสถานที่สำหรับ แช่น้ำพุร้อนที่มีแร่กำมะถัน ตามตำนานเล่าขานว่าในสมัยกษัตริย์วาคตังที่ 1 กอร์กัซลีนกเหยี่ยวของพระองค์ได้ตกลงไปในบริเวณดังกล่าว จงทำให้ค้นพบบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ขึ้น ลักษณะของโรงอาบน้ำคล้ายๆ กับการออนเซนของ ชาวญี่ปุ่นผสมรวมกับการอาบน้ำแบบตุรกี นำท่านชมหมู่โรงอาบน้ำที่มีการสร้างและให้บริการตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบันที่มีรูปแบบตัวอาคารที่หลากหลาย บางแห่งสร้างเป็นหลังโดม บางแห่งมีหอมินาเร่ต์ขนาบข้าง ประดับด้วย โมเสคชิ้นเล็กสวยงามยิ่ง ระหว่างทางสามารถเห็นโบสถ์นิกายออร์โธด็อกซ์ที่เก่าแก่ มากมาย นำท่านชม Bridge of Peace สะพานคนเดินที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามโดยสร้างข้ามแม่น้ำคูรา เพื่อเชื่อมเขตเมืองเก่าและเมืองใหญ่ จากสะพานทุกท่าน ได้ชมวิวทิวทศน์อันสวยงามของเมืองทบิลิซีและโบสถ์ Metekhi และรูปปั้นกษัตริย์ Vakhtang Gorgasali ผู้สร้างเมือง ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางขึ้น เคเบิ้ลคาร์ชมป้อมปราการนาริกาลา (Narikala Fortress) ป้อมปราการหินโบราณขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างขึ้นตั้งแต่ คริสต์ศตวรรษที่ 4 เพื่อปกป้องเมืองและผ่านผู้ปกครองมาหลายยุคหลายสมัยที่ต่างผลัดกันเข้ามารุกรานนครเล็กๆ บนเส้นทางสายไหมแห่งนี้ ราชวงศ์อุมัยยัดของชาวอาหรับได้ต่อเติมป้อมในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 ต่อมาพวกมองโกลตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Narin Qala แปลว่าป้อมน้อย (Little Fortress) นักประวัติศาสตร์ยกย่องว่าป้อม นาริกาลาเป็นป้อมแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายไหมที่แข็งแกร่งและตีได้ยากที่สุด จากนั้นชม Anchiskhati church โบสถ์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 6 นำท่านชม อนุสาวรีย์มารดาแห่งจอร์เจีย (Kartlis Deda, Mother Georgia) รูปปั้นขนาดใหญ่ยักษ์ของหญิงถือดาบและถ้วยนั่นคือมารดาของจอร์เจียหรือ Kartlis Deda ในจอร์เจีย ที่สร้างขึ้นจากอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป 20 เมตร (65.6 ฟุต) ซึ่งไม่ใช้แต่จะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองทบิลีซีเท่านั้น แต่ยังถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศเช่นกัน โดยดาบที่ถือมีความหมายเอาไว้ใช้สำหรับผู้ที่จะมาเป็นศัตรูและถ้วยไวน์มีความหมายสำหรับผู้ที่มาเป็นเพื่อนพ้อง จากนั้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งที่ Jan sharden street ถนนคนเดินย่านเมืองเก่าที่เป็นแหล่งศูนย์รวมทางสังคมและวัฒนธรรมหลังฟื้นฟูในศตวรรษที่ 9 ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อ ถนนมาเป็น Chardin Street เพื่อเป็นเกียรติแก่นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส Jean Chardin ปัจจุบันถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้าน ค้า ร้านอาหารพื้นเมือง ร้านกาแฟและมากมายด้วยผู้คนพื้นเมืองกับนักท่องเที่ยว บริเวณนี้จะมีบ้านเมืองเก่าในแบบทบิลิซีที่โดดเด่น นอกจากด้านอาหารแล้วยังมีพ่อค้าแม่ค้านำสิ่งของต่างๆมาวางขายมากมาย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Brim หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ ทบิลิซี – มิสเคต้า – โบสถ์สเวติทสโคเวลี – วิหารจวารี – ป้อมอนานูรี - ทะเลสาบ Jhinvali Lake อนุสาวรีย์มิตรภาพจอร์เจีย – เมืองกูดาอูรี – คัสเบกี – เทือกเขาคอเคซัส
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิสเคต้า (Mtskheta) ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศจอร์เจียสมัยอาณาจักรไอบีเรีย (Kingdom of Iberia) ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของจอร์เจียในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาลตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือห่างจากกรุงทบิลิซีประมาณ 20 กม. เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของประเทศ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1994 จากนั้นเข้าชมโบสถ์สเวติทสโคเวลี (Svetitskhoveli Catherdal) UNESCO world Heritage สร้างในราวศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ในเมืองประวัติศาสตร์มซเคต้า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และให้การเคารพศรัทธา ที่สุดของชาวคริสต์นิกายจอร์เจียน ออร์โธด็อกซ์เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังเส้นผมของพระเยซูก่อนที่จะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน โบสถ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองมรดกโลกอีกด้วย นำท่านเข้าชม วิหารจวารี (Jvari Monastery) หรือโบสถ์แห่งไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์นิกายออโธด๊อกสร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 ชาวจอร์เจียสักการะนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่โบสถ์นี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกันคือแม่น้ำมิควารี (Mtkvari river) และ แม่น้ำอรักวี (Aragvi river) จากนั้นเข้าชม ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราสาทตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของ แม่น้ำอรักวีเป็นที่ประทับของเอริสตาวิส หรือ ดยุคแห่งอรักวีราชวงศ์ศักดินาผู้ปกครองดินแดนลุ่มแม่น้ำอรักวีและเป็นสมรภูมิรบแย่งชิงอำนาจกับเจ้าปกครองแคว้นอื่น ๆ หลายครั้ง ภายในป้อมปราการประกอบไปด้วยปราสาท 2 หลัง โบสถ์ 2 แห่งคือ โบสถ์แม่พระผู้พรหมจรรย์และโบสถ์แม่พระเสด็จขึ้นสวรรค์ (อัสสัมชัญ) และที่ฝังศพของดยุคแห่งอรักวีซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจีย นำท่านแวะถ่ายรูปที่ ทะเลสาบ Jhinvali Lake สถานที่ที่เอาไว้ใช้เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่ทำให้ชาวเมืองทบิลิซีมีน้ำไว้ดื่มไว้ใช้สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในมรดกโลก Unesco World Heritage ในปีค.ศ. 2007
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำทุกท่านเดินทางชม อนุสาวรีย์มิตรภาพจอร์เจีย (Russiageorgia friendship monument) หรือ สนธิสัญญา Georgievsk Monument เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในปี 1983 เพื่อเฉลิมฉลองสองร้อยปีของสนธิสัญญา Georgievsk และมิตรภาพที่ต่อเนื่องระหว่างโซเวียตจอร์เจียกับโซเวียตรัสเซีย หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองกูดาอูรี (Gudauri) โดยเดินทางไปยังเส้นทางหลวงสายสำคัญที่มีชื่อว่า Georgian Military Highway เส้นทางสำหรับใช้ในด้านทหาร ถนนสายนี้เป็นถนนสายสำคัญที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยที่จอร์เจียอยู่ภายใต้การควบคุมจากสหภาพโซเวียด เพื่อใช้เป็นเส้นทางหลักในการข้ามเทือกเขาคอเคซัสจากรัสเซียมายังที่ภูมิภาคนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองคาซเบกี้ (Kazbegi) หรือปัจจุบันเรียกว่า เมืองสเตปันสมินดา (Stepansminda) ชื่อนี้เพิ่งเปลี่ยนเมื่อปี 2006 หลังจากนักบุญนิกายออร์โธด๊อก ชื่อสเตฟาน ได้มาพำนักอาศัยและก่อสร้างสถานที่สำหรับจำศีลภาวนาขึ้น เมืองนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงทบิลิซีประมาณ 157 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทอร์กี้ถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) ที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย มีภูมิทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวของยอดเขาคาซเบกี้ อีกด้วย จากนั้นนำท่านขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) เพื่อเข้าสู่ใจกลางหุบเขาคอเคซัส (Caucasus) นำท่านชมความสวยงามของโบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) หรือเรียกว่าโบสถ์สมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba) สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นโบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนเทือกเขาคาซเบกี้ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 2,170 เมตร
(*ในกรณีที่มีหิมะตกหนัก จนไม่สามารถเดินทางได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม*)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Sno หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า เมืองกูดาอูรี – เมืองโกรี่ – เมืองถ้ำอุพลิสชิเค – เมืองบอร์โจมี – อุทยานแห่งชาติ Borjomi Kharagaul national Park
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอรี (GORI) เมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ในอดีตเคยมีความสำคัญทางด้านทหารในยุคกลางเป็นที่ตั้งของกองกำลังที่อยู่บนถนนสายสำคัญ (Georgian Military Highway) นอกจากนั้นเมืองนี้ยังเป็นเมืองบ้านเกิดของ โจเซฟ สตาลิน อดีตผู้นำที่มีชื่อเสียงของพรรคอมมิวนิสต์โซเวียต และอเล็กซานเดอร์นาดีราซีผู้เป็นนักออกแบบชื่อดังในด้านจรวดขีปนาวุธข้ามทวีปของโซเวียต จากนั้นนำท่านเข้าชมป้อมปราการกอรี (Gori Fortress) ป้อมปราการยุคกลางในจอร์เจีย ที่ตั้งอยู่เหนือเมืองกอรีบนเนินหินปรากฏในบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งแรกเมื่อศตวรรษที่ 13 มีบทบาทสำคัญในการควบคุมเส้นทางและเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 16 พวกออตโตเข้ายึดป้อมโกริเพื่อใช้เป็นบัญชาการโจมตีทบิลิซีในปีค.ศ.1598 ชาวจอร์เจียก็ปิดล้อมป้อมเพื่อไม่ให้ป้อมสามารถถูกใช้ ประโยชน์ได้จากพวกเปอร์เซียและหลังจากนั้นในปีค.ศ.1599 ชาวจอร์เจียเริ่มการจู่โจมในตอนกลางคืนเพื่อยึดป้อมคืน ป้อมปราการยังคงเปลี่ยนมือระหว่างชางจอร์เจียและชาวเปอร์เซียใน ศตวรรษที่ 17 จากนั้นนำท่านชม เมืองถ้ำอุพลิสชิเค (Uplistsikhe Cave) หนึ่งในเมืองถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจีย ที่ตามประวัติศาตร์ของชาวจอร์เจียได้มีการจดบันทึกเรื่องราวการ ว่า ณ เมืองถ้ำแห่งนี้ได้มีการตั้งถิ่นฐานในดินแดนแถบนี้กว่า 3,000 ปีโดยช่วงที่เมืองนี้มีความเจริญถึงขีดสุด คือในช่วงคริสตวรรษที่ 9-11 ก่อนจะถูกรุกรานและทำลายโดยชาวมองโกลในช่วง คริสตวรรษที่ 11 หินผาขนาดใหญ่ ที่ถูกสกัดและสลักเสลาเป็นช่องห้องโถงมากมายคือที่ตั้งของนครบนแนวเทือกเขาหินทราย ในอดีตกาล นครถ้ำแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมที่เชื่อมต่ออาณาจักรไบแซนไทน์กับประเทศอินเดียและประเทศจีน นำท่านสู่เมืองบอร์โจมี (Borjomi) เมืองตากอากาศเล็กๆ ในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของน้ำแร่ธรรมชาติโดยน้ำแร่ยี่ห้อบอร์โจได้มีการบรรจุณ ธารน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ไหลรินจากยอดเขาบาคุเรียนี (Bakuriani Mountain) โดยในอดีตชาวเมืองได้เชื่อว่าถ้าได้ดื่มธารน้ำแห่งนี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าชมอุทยานแห่งชาติ Borjomi Kharagaul national Park ในยุคสมัยก่อน อุทยานแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่เอาไว้สำหรับล่าสัตว์โดยขุนนางท้องถิ่นแต่เมื่อจอร์เจียได้สูญเสียความเป็นอิสระและกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย โดยจักรวรรดิรัสเซียได้ส่ง ท่านดุ๊กไมเคิล นิคโคลาสวิส เข้ามาเป็นผู้ปกครองเมืองและได้ค้นพบเข้ากับความงามท้องถิ่นของสถานที่แหงนี้จึงได้ตัดสินใจสร้างบ้านพักของตนในช่วงฤดูร้อน ณ ที่แห่งนี้ Grand Duke Michael จำกัดการตัดไม้หรือล่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงทำให้เกิดเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตของอุทยาน ในปี 1995 Borjomi-Kharagauli อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ได้รับการรับรองและสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ ด้วยการสนับสนุนของกองทุนสัตว์ป่าโลกและรัฐบาลเยอรมันและได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2001 จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้าสู่ชมวิวบนหน้าผาเหนือเมืองบอร์โจมี อิสระให้ท่านเก็บภาพวิวทิวทัศน์ธรรมชาติจากมุมสูง ตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Borjomi Palace หรือเทียบเท่า
วันที่หก บอร์โจมี– เมือง akhaltsikhe – ป้อม Rabat Fortress
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านสู่ เมือง akhaltsikhe หรือเดิมชื่อ Lomsia เป็นเมืองเล็กๆ ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจอร์เจีย ตั้งอยู่บนทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ Potskhovi ขนาดเล็กซึ่งแยกเมืองกับเมืองเก่าในภาคเหนือและใหม่ในภาคใต้ นำท่านเข้าชม Rabati Fortress แนวป้อมปราการและปราสาทสุดอลังการ ภายในประกอบไปด้วยส่วนประกอบของอาคารหลายๆส่วน สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 13 ล้อมรอบไปด้วยอาณาเขตแนวกำแพงหินที่ใช้เป็นป้อมป้องกันข้าศึก และยังเคยใช้เป็นประทับของเจ้าชาย Jakhely ภายหลังศตวรรษที่ 16 ป้อมแห่งนี้ก็ได้ตกอยู่ในความครอบครองของอาณาจักรออโตมันและรัสเซีย จึงทำให้ป้อมแห่งนี้ถูกละเลยและอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมจนเมื่อปี 2012 ทางการจอร์เจียได้บูรณะป้อมแห่งนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองทบิลิซี (TBILISI) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคูรา (Kura) หรือเรียกว่าแม่น้ำมตควารี (Mtkvari) ในภาษาท้องถิ่น ทบิลิซิมีเนื้อที่ประมาณ 372 ตร.กม.และมีประชากรประมาณ 1.1ล้านคน เมืองนี้ถูกสร้างโดย วาคตัง จอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลี(ไอบีเรีย)ได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 4 เมืองทบิลิซิเป็นศูนย์กลางการทำอุตสาหกรรม สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคคอเคซัส ในประวัติศาสตร์เมืองนี้อยู่ในสายทางหนึ่งของเส้นทางสายไหม และปัจจุบันยังมีบทบาทสำคัญ ในฐานะศูนย์กลาง การขนส่งและการค้า เนื่องจากความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในแง่ที่ตั้งที่เป็นจุดตัดระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรปจากนั้นอิสระให้ทุกท่านช้อปปปิ้งเลือกซื้อสินค้าของฝากได้ตามอัธยาศัยที่ Tbilisi Mall
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Brim หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด ทบิลิซี – อนุสาวรีย์ the chronicle of Georgia
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม อนุสาวรีย์ the chronicle of Georgia หรือแท่งหินสีดำแกะสลักขนาดใหญ่ยักษ์บนแท่นหินจะแกะสลักออกมาเป็นรูปต่างๆและบอกเล่าเรื่องราวของประเทศจอร์เจียในอดีต สร้างขึ้นโดย ซุราป สถาปนิกชื่อดัง เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 1985 chronicle of Georgia ประกอบไปด้วย แท่งเสา 16 แท่ง แต่ละแท่งสูง 35 เมตร โดยที่แต่ละเสาจะแบ่งบอกเล่าเรื่องราวออกเป็น 3 ส่วน คือ ล่างสุดเกี่ยวกับพระคัมภีร์ส่วนกลาง คือ เรื่องของชนชั้นสูงในจอร์เจียและส่วนบนจะเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของประเทศ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทาฃสู่สนามบิน
16.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินฟลายดูไบ เที่ยวบินที่ EK 2201 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
20.15 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
วันที่แปด ดูไบ-กรุงเทพฯ
22.35 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 374
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
07.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
6



15 มกราคม - 20 เม.ย. 2563



วันเดินทาง
สายการบินเอมิเรตส์ (Emirates)
สายการบิน
รหัส : Ek024
โปรแกรมทัวร์ : จอร์เจีย 8 วัน 5 คืน
รายละเอียดโปรแกรม : เมืองทบิลิ วิหารซีโอนี โบสถ์ตรีนิตี้ โบสถ์เมทเทคี โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน เคเบิ้ลคาร์ชมป้อมปราการนาริกาลา อนุสาวรีย์มารดา มิสเคต้า โบสถ์สเวติทสโคเวลี ป้อมอนานูรี คัสเบกี เทือกเขาคอเคซัส เมืองถ้ำอุพลิสชิเค Borjomi Kharagaul national Park ป้อม Rabat Fortress อนุสาวรีย์ the chronicle of Georgia
ราคาเริ่มต้น : 42,900 TH
ดาวน์โหลดใบสั่งจองโปรแกรมทัวร์
** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง
2
1
3
5
6
7
8
4
วันแรก กรุงเทพฯ
23.00 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก
วันที่สอง ดูไบ – ทบิลิซิ – วิหารซีโอนี
03.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 377 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
06.55 น. ถึงสนามบินเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
11.00 น. เดินทางสู่เมืองทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย โดยสายการบินฟลายดูไบ เที่ยวบินที่ EK 2200 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
14.30 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองทบิลิซี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำท่านสู่ เมืองทบิลิซี (Tbilisi) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่ระหว่างสองฝั่งแม่น้ำ คูรา Kuraหรือแม่น้ำซควารี Mtkvari ในภาษาถิ่น ก่อตั้งในราวศตวรรษที่ 5 เป็นเมืองหลวงสุดท้ายของอาณาจักรไอบีเรีย ที่อยู่รอดท่ามกลางสองอาณาจักรโรมัน และแซสซานิค กรุงทบิลิซีมีเนื้อที่ประมาณ 372 ตร.กม.และมีประชากร1,093,000 คน เมืองนี้ถูกสร้างโดย กษัตริย์วาคตัง จอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลีได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 4 เมืองทบิลิซิเป็นศูนย์กลางการทำอุตสาหกรรม สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคคอเคซัส ในประวัติศาสตร์เมืองนี้อยู่ในสายทางหนึ่งของเส้นทางสายไหม และปัจจุบันยังมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางการขนส่งและการค้า เนื่องจากความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในแง่ที่ตั้งที่เป็นจุดติดระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป นำท่านชม วิหารซีโอนี (Siony Cathedral) โบสถ์หลังใหญ่ของนิกายออร์โธด๊อกที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองนี้โดยชื่อของโบสถ์ได้นำมาจากดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์คือ ภูเขาไซออนในเจรูซาเล็ม ต่อมาสถานที่แห่งนี้ก็ได้มีชื่อเป็น ซิโอนีแห่งทบิลิซี (Tbilisi Sioni) ถูก สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6-7 และต่อมาก็ได้ถูกทำลายลงโดย ผู้ที่บุกรุกแต่ก็ได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน จนกระทั่งเป็นโบสถ์ทีได้เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้และได้มีการบูรณะในช่วงศตวรรษที่ 17-19
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Brim หรือเทียบเท่า
วันที่สาม ทบิลิซี – โบสถ์ตรีนิตี้ – โบสถ์เมทเทคี – โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน - Bridge ofPeace - เคเบิ้ลคาร์ชมป้อมปราการนาริกาลา - ร้าน Old Georgian Bakery Tone - Anchiskhati church – อนุสาวรีย์มารดาแห่งจอร์เจีย - Jan sharden street
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำชมโบสถ์ตรีนิตี้ (Holy Trinity Cathedral Of Tbilisi) หรือ ซามีบา (Sameba Chthedral) มีความหมายว่า โบสถ์พระตรีเอกานุภาพศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงทบิลิซี หรือ อารามซามีบา ชื่อเรียกของคนท้องถิ่น เป็นวิหารหลักของชาวคริสต์นิกายจอร์เจียนออร์โธด็อกซ์ในกรุงทบิลิซีก่อสร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ.1995 -2004 ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของศาสนสถานในนิกายออร์โธด๊อกซ์ตะวันออกทั่วโลกแม้จะมีอายุไม่มากแต่ก็เป็นโบสถ์ตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนท้องถิ่นที่มีรูปแบบทางศิลปะจากไบแซนไทน์โบสถ์เป็น อาคารขนาดใหญ่ที่โดดเด่นมาก จากนั้นนำชมโบสถ์เมทเทคี (Metekhi Church) เป็นโบสถ์เก่าแก่ในยุคศตวรรษที่ 13 ตั้งอยู่ในบริเวณเมืองเก่าในอดีตโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นป้อมที่ประทับของพระมหากษัตริย์และได้ใช้เป็นโบสถ์ของพระมหากษัตริย์อีกด้วย โบสถ์นี้มีลักษณะเป็นป้อมที่มียอดโดมแหลมขึ้นไปซึ่งเป็นที่นิยมก่อสร้างกันในยุคกลาง ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในช่วงยุคศตวรรษที่ 17 – 18 จากนั้นนำท่านไปยังเขตเมืองเก่า ชมบริเวณ โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน (Sulphur Baths) หรือภาษาจอร์เจียน เรียกว่า Abanotubani (อะบานูออูบานิ) เป็นสถานที่สำหรับ แช่น้ำพุร้อนที่มีแร่กำมะถัน ตามตำนานเล่าขานว่าในสมัยกษัตริย์วาคตังที่ 1 กอร์กัซลีนกเหยี่ยวของพระองค์ได้ตกลงไปในบริเวณดังกล่าว จงทำให้ค้นพบบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ขึ้น ลักษณะของโรงอาบน้ำคล้ายๆ กับการออนเซนของ ชาวญี่ปุ่นผสมรวมกับการอาบน้ำแบบตุรกี นำท่านชมหมู่โรงอาบน้ำที่มีการสร้างและให้บริการตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบันที่มีรูปแบบตัวอาคารที่หลากหลาย บางแห่งสร้างเป็นหลังโดม บางแห่งมีหอมินาเร่ต์ขนาบข้าง ประดับด้วย โมเสคชิ้นเล็กสวยงามยิ่ง ระหว่างทางสามารถเห็นโบสถ์นิกายออร์โธด็อกซ์ที่เก่าแก่ มากมาย นำท่านชม Bridge of Peace สะพานคนเดินที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามโดยสร้างข้ามแม่น้ำคูรา เพื่อเชื่อมเขตเมืองเก่าและเมืองใหญ่ จากสะพานทุกท่าน ได้ชมวิวทิวทศน์อันสวยงามของเมืองทบิลิซีและโบสถ์ Metekhi และรูปปั้นกษัตริย์ Vakhtang Gorgasali ผู้สร้างเมือง ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางขึ้น เคเบิ้ลคาร์ชมป้อมปราการนาริกาลา (Narikala Fortress) ป้อมปราการหินโบราณขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างขึ้นตั้งแต่ คริสต์ศตวรรษที่ 4 เพื่อปกป้องเมืองและผ่านผู้ปกครองมาหลายยุคหลายสมัยที่ต่างผลัดกันเข้ามารุกรานนครเล็กๆ บนเส้นทางสายไหมแห่งนี้ ราชวงศ์อุมัยยัดของชาวอาหรับได้ต่อเติมป้อมในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 ต่อมาพวกมองโกลตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Narin Qala แปลว่าป้อมน้อย (Little Fortress) นักประวัติศาสตร์ยกย่องว่าป้อม นาริกาลาเป็นป้อมแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายไหมที่แข็งแกร่งและตีได้ยากที่สุด จากนั้นชม Anchiskhati church โบสถ์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 6 นำท่านชม อนุสาวรีย์มารดาแห่งจอร์เจีย (Kartlis Deda, Mother Georgia) รูปปั้นขนาดใหญ่ยักษ์ของหญิงถือดาบและถ้วยนั่นคือมารดาของจอร์เจียหรือ Kartlis Deda ในจอร์เจีย ที่สร้างขึ้นจากอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป 20 เมตร (65.6 ฟุต) ซึ่งไม่ใช้แต่จะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองทบิลีซีเท่านั้น แต่ยังถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศเช่นกัน โดยดาบที่ถือมีความหมายเอาไว้ใช้สำหรับผู้ที่จะมาเป็นศัตรูและถ้วยไวน์มีความหมายสำหรับผู้ที่มาเป็นเพื่อนพ้อง จากนั้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งที่ Jan sharden street ถนนคนเดินย่านเมืองเก่าที่เป็นแหล่งศูนย์รวมทางสังคมและวัฒนธรรมหลังฟื้นฟูในศตวรรษที่ 9 ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อ ถนนมาเป็น Chardin Street เพื่อเป็นเกียรติแก่นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส Jean Chardin ปัจจุบันถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้าน ค้า ร้านอาหารพื้นเมือง ร้านกาแฟและมากมายด้วยผู้คนพื้นเมืองกับนักท่องเที่ยว บริเวณนี้จะมีบ้านเมืองเก่าในแบบทบิลิซีที่โดดเด่น นอกจากด้านอาหารแล้วยังมีพ่อค้าแม่ค้านำสิ่งของต่างๆมาวางขายมากมาย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Brim หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ ทบิลิซี – มิสเคต้า – โบสถ์สเวติทสโคเวลี – วิหารจวารี – ป้อมอนานูรี - ทะเลสาบ Jhinvali Lake อนุสาวรีย์มิตรภาพจอร์เจีย – เมืองกูดาอูรี – คัสเบกี – เทือกเขาคอเคซัส
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิสเคต้า (Mtskheta) ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศจอร์เจียสมัยอาณาจักรไอบีเรีย (Kingdom of Iberia) ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของจอร์เจียในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาลตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือห่างจากกรุงทบิลิซีประมาณ 20 กม. เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของประเทศ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1994 จากนั้นเข้าชมโบสถ์สเวติทสโคเวลี (Svetitskhoveli Catherdal) UNESCO world Heritage สร้างในราวศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ในเมืองประวัติศาสตร์มซเคต้า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และให้การเคารพศรัทธา ที่สุดของชาวคริสต์นิกายจอร์เจียน ออร์โธด็อกซ์เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังเส้นผมของพระเยซูก่อนที่จะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน โบสถ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองมรดกโลกอีกด้วย นำท่านเข้าชม วิหารจวารี (Jvari Monastery) หรือโบสถ์แห่งไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์นิกายออโธด๊อกสร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 ชาวจอร์เจียสักการะนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่โบสถ์นี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกันคือแม่น้ำมิควารี (Mtkvari river) และ แม่น้ำอรักวี (Aragvi river) จากนั้นเข้าชม ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราสาทตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของ แม่น้ำอรักวีเป็นที่ประทับของเอริสตาวิส หรือ ดยุคแห่งอรักวีราชวงศ์ศักดินาผู้ปกครองดินแดนลุ่มแม่น้ำอรักวีและเป็นสมรภูมิรบแย่งชิงอำนาจกับเจ้าปกครองแคว้นอื่น ๆ หลายครั้ง ภายในป้อมปราการประกอบไปด้วยปราสาท 2 หลัง โบสถ์ 2 แห่งคือ โบสถ์แม่พระผู้พรหมจรรย์และโบสถ์แม่พระเสด็จขึ้นสวรรค์ (อัสสัมชัญ) และที่ฝังศพของดยุคแห่งอรักวีซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจีย นำท่านแวะถ่ายรูปที่ ทะเลสาบ Jhinvali Lake สถานที่ที่เอาไว้ใช้เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่ทำให้ชาวเมืองทบิลิซีมีน้ำไว้ดื่มไว้ใช้สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในมรดกโลก Unesco World Heritage ในปีค.ศ. 2007
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำทุกท่านเดินทางชม อนุสาวรีย์มิตรภาพจอร์เจีย (Russiageorgia friendship monument) หรือ สนธิสัญญา Georgievsk Monument เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในปี 1983 เพื่อเฉลิมฉลองสองร้อยปีของสนธิสัญญา Georgievsk และมิตรภาพที่ต่อเนื่องระหว่างโซเวียตจอร์เจียกับโซเวียตรัสเซีย หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองกูดาอูรี (Gudauri) โดยเดินทางไปยังเส้นทางหลวงสายสำคัญที่มีชื่อว่า Georgian Military Highway เส้นทางสำหรับใช้ในด้านทหาร ถนนสายนี้เป็นถนนสายสำคัญที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยที่จอร์เจียอยู่ภายใต้การควบคุมจากสหภาพโซเวียด เพื่อใช้เป็นเส้นทางหลักในการข้ามเทือกเขาคอเคซัสจากรัสเซียมายังที่ภูมิภาคนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองคาซเบกี้ (Kazbegi) หรือปัจจุบันเรียกว่า เมืองสเตปันสมินดา (Stepansminda) ชื่อนี้เพิ่งเปลี่ยนเมื่อปี 2006 หลังจากนักบุญนิกายออร์โธด๊อก ชื่อสเตฟาน ได้มาพำนักอาศัยและก่อสร้างสถานที่สำหรับจำศีลภาวนาขึ้น เมืองนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงทบิลิซีประมาณ 157 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทอร์กี้ถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) ที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย มีภูมิทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวของยอดเขาคาซเบกี้ อีกด้วย จากนั้นนำท่านขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) เพื่อเข้าสู่ใจกลางหุบเขาคอเคซัส (Caucasus) นำท่านชมความสวยงามของโบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) หรือเรียกว่าโบสถ์สมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba) สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นโบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนเทือกเขาคาซเบกี้ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 2,170 เมตร
(*ในกรณีที่มีหิมะตกหนัก จนไม่สามารถเดินทางได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม*)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Sno หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า เมืองกูดาอูรี – เมืองโกรี่ – เมืองถ้ำอุพลิสชิเค – เมืองบอร์โจมี – อุทยานแห่งชาติ Borjomi Kharagaul national Park
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอรี (GORI) เมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ในอดีตเคยมีความสำคัญทางด้านทหารในยุคกลางเป็นที่ตั้งของกองกำลังที่อยู่บนถนนสายสำคัญ (Georgian Military Highway) นอกจากนั้นเมืองนี้ยังเป็นเมืองบ้านเกิดของ โจเซฟ สตาลิน อดีตผู้นำที่มีชื่อเสียงของพรรคอมมิวนิสต์โซเวียต และอเล็กซานเดอร์นาดีราซีผู้เป็นนักออกแบบชื่อดังในด้านจรวดขีปนาวุธข้ามทวีปของโซเวียต จากนั้นนำท่านเข้าชมป้อมปราการกอรี (Gori Fortress) ป้อมปราการยุคกลางในจอร์เจีย ที่ตั้งอยู่เหนือเมืองกอรีบนเนินหินปรากฏในบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งแรกเมื่อศตวรรษที่ 13 มีบทบาทสำคัญในการควบคุมเส้นทางและเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 16 พวกออตโตเข้ายึดป้อมโกริเพื่อใช้เป็นบัญชาการโจมตีทบิลิซีในปีค.ศ.1598 ชาวจอร์เจียก็ปิดล้อมป้อมเพื่อไม่ให้ป้อมสามารถถูกใช้ ประโยชน์ได้จากพวกเปอร์เซียและหลังจากนั้นในปีค.ศ.1599 ชาวจอร์เจียเริ่มการจู่โจมในตอนกลางคืนเพื่อยึดป้อมคืน ป้อมปราการยังคงเปลี่ยนมือระหว่างชางจอร์เจียและชาวเปอร์เซียใน ศตวรรษที่ 17 จากนั้นนำท่านชม เมืองถ้ำอุพลิสชิเค (Uplistsikhe Cave) หนึ่งในเมืองถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจีย ที่ตามประวัติศาตร์ของชาวจอร์เจียได้มีการจดบันทึกเรื่องราวการ ว่า ณ เมืองถ้ำแห่งนี้ได้มีการตั้งถิ่นฐานในดินแดนแถบนี้กว่า 3,000 ปีโดยช่วงที่เมืองนี้มีความเจริญถึงขีดสุด คือในช่วงคริสตวรรษที่ 9-11 ก่อนจะถูกรุกรานและทำลายโดยชาวมองโกลในช่วง คริสตวรรษที่ 11 หินผาขนาดใหญ่ ที่ถูกสกัดและสลักเสลาเป็นช่องห้องโถงมากมายคือที่ตั้งของนครบนแนวเทือกเขาหินทราย ในอดีตกาล นครถ้ำแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมที่เชื่อมต่ออาณาจักรไบแซนไทน์กับประเทศอินเดียและประเทศจีน นำท่านสู่เมืองบอร์โจมี (Borjomi) เมืองตากอากาศเล็กๆ ในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของน้ำแร่ธรรมชาติโดยน้ำแร่ยี่ห้อบอร์โจได้มีการบรรจุณ ธารน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ไหลรินจากยอดเขาบาคุเรียนี (Bakuriani Mountain) โดยในอดีตชาวเมืองได้เชื่อว่าถ้าได้ดื่มธารน้ำแห่งนี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าชมอุทยานแห่งชาติ Borjomi Kharagaul national Park ในยุคสมัยก่อน อุทยานแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่เอาไว้สำหรับล่าสัตว์โดยขุนนางท้องถิ่นแต่เมื่อจอร์เจียได้สูญเสียความเป็นอิสระและกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย โดยจักรวรรดิรัสเซียได้ส่ง ท่านดุ๊กไมเคิล นิคโคลาสวิส เข้ามาเป็นผู้ปกครองเมืองและได้ค้นพบเข้ากับความงามท้องถิ่นของสถานที่แหงนี้จึงได้ตัดสินใจสร้างบ้านพักของตนในช่วงฤดูร้อน ณ ที่แห่งนี้ Grand Duke Michael จำกัดการตัดไม้หรือล่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงทำให้เกิดเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตของอุทยาน ในปี 1995 Borjomi-Kharagauli อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ได้รับการรับรองและสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ ด้วยการสนับสนุนของกองทุนสัตว์ป่าโลกและรัฐบาลเยอรมันและได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2001 จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้าสู่ชมวิวบนหน้าผาเหนือเมืองบอร์โจมี อิสระให้ท่านเก็บภาพวิวทิวทัศน์ธรรมชาติจากมุมสูง ตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Borjomi Palace หรือเทียบเท่า
วันที่หก บอร์โจมี– เมือง akhaltsikhe – ป้อม Rabat Fortress
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านสู่ เมือง akhaltsikhe หรือเดิมชื่อ Lomsia เป็นเมืองเล็กๆ ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจอร์เจีย ตั้งอยู่บนทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ Potskhovi ขนาดเล็กซึ่งแยกเมืองกับเมืองเก่าในภาคเหนือและใหม่ในภาคใต้ นำท่านเข้าชม Rabati Fortress แนวป้อมปราการและปราสาทสุดอลังการ ภายในประกอบไปด้วยส่วนประกอบของอาคารหลายๆส่วน สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 13 ล้อมรอบไปด้วยอาณาเขตแนวกำแพงหินที่ใช้เป็นป้อมป้องกันข้าศึก และยังเคยใช้เป็นประทับของเจ้าชาย Jakhely ภายหลังศตวรรษที่ 16 ป้อมแห่งนี้ก็ได้ตกอยู่ในความครอบครองของอาณาจักรออโตมันและรัสเซีย จึงทำให้ป้อมแห่งนี้ถูกละเลยและอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมจนเมื่อปี 2012 ทางการจอร์เจียได้บูรณะป้อมแห่งนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองทบิลิซี (TBILISI) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคูรา (Kura) หรือเรียกว่าแม่น้ำมตควารี (Mtkvari) ในภาษาท้องถิ่น ทบิลิซิมีเนื้อที่ประมาณ 372 ตร.กม.และมีประชากรประมาณ 1.1ล้านคน เมืองนี้ถูกสร้างโดย วาคตัง จอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลี(ไอบีเรีย)ได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 4 เมืองทบิลิซิเป็นศูนย์กลางการทำอุตสาหกรรม สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคคอเคซัส ในประวัติศาสตร์เมืองนี้อยู่ในสายทางหนึ่งของเส้นทางสายไหม และปัจจุบันยังมีบทบาทสำคัญ ในฐานะศูนย์กลาง การขนส่งและการค้า เนื่องจากความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในแง่ที่ตั้งที่เป็นจุดตัดระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรปจากนั้นอิสระให้ทุกท่านช้อปปปิ้งเลือกซื้อสินค้าของฝากได้ตามอัธยาศัยที่ Tbilisi Mall
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Brim หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด ทบิลิซี – อนุสาวรีย์ the chronicle of Georgia
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม อนุสาวรีย์ the chronicle of Georgia หรือแท่งหินสีดำแกะสลักขนาดใหญ่ยักษ์บนแท่นหินจะแกะสลักออกมาเป็นรูปต่างๆและบอกเล่าเรื่องราวของประเทศจอร์เจียในอดีต สร้างขึ้นโดย ซุราป สถาปนิกชื่อดัง เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 1985 chronicle of Georgia ประกอบไปด้วย แท่งเสา 16 แท่ง แต่ละแท่งสูง 35 เมตร โดยที่แต่ละเสาจะแบ่งบอกเล่าเรื่องราวออกเป็น 3 ส่วน คือ ล่างสุดเกี่ยวกับพระคัมภีร์ส่วนกลาง คือ เรื่องของชนชั้นสูงในจอร์เจียและส่วนบนจะเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของประเทศ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทาฃสู่สนามบิน
16.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินฟลายดูไบ เที่ยวบินที่ EK 2201 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
20.15 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
วันที่แปด ดูไบ-กรุงเทพฯ
22.35 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 374
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
07.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ












