top of page

วันแรก กรุงเทพฯ-สนามบินสุวรรณภูมิ (ไทย)

23.30 น. คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง ดูไบ-กรุงโรม-นาโปลี (ยูเออี-อิตาลี)

03.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 377 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

06.55 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

09.10 น. เดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์  เที่ยวบินที่ EK 097

(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

13.25 น. เดินทางถึงกรุงโรม ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนาโปลี เมืองหลวงแห่งแคว้นกัมปาเนีย เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญของอิตาลีทางตอนใต้ของในประเทศในคาบสมุทรอิตาลี เป็นเมืองที่เคยถูกยึดครองโดยชาวกรีก และชาวโรมัน

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ American Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่สาม  นาโปลี-เกาะคาปรี-ถ้ำบลูก็อตโต-เขตเมืองเก่าเกาะคาปรี (อิตาลี)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นนำเดินทางสู่ท่าเรือ เพื่อเตรียมตัว นั่งเรือ Jetfoil สู่เกาะคาปรี เกาะที่มีเสน่ห์เป็นของตัวเองมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟวิซูสเวียส จากนั้นนำท่านเช้าชม ถ้ำบลูก็อตโต เป็นถ้ำที่มีความสวยงามทั้งในเรื่องของที่ตั้งที่มีปากทางเข้าถ้ำอยู่ในทะเล และยามเมื่อแสงแดดส่องมากระทบกับน้ำทะเลสีครามภายในถ้ำจะเกิดสีเปล่งประกายด้วยสีน้ำเงินเข้มงดงามสมกับชื่อว่า BLUE GROTTO ** การเข้ามชมถ้ำบลูก็อตโตขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและน้ำขึ้นน้ำลงในแต่ละวัน หากไม่สามารถเข้าชมได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม**

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำท่านนั่งรถรางขึ้นสู่ เขตเมืองเก่าด้านบนเกาะคาปรี นำท่านเดินเล่นชมเมืองเก่าบ้านเรือนที่สวยงามและแสนน่ารักเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ มีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึก ของพื้นเมือง หรือเลือกนั่งพักผ่อนดื่มกาแฟตรมอัธยาศัย ถึงเวลาอันสมควรนำท่านนำท่านเดินทางสู่ Marina Grande เพื่อเตรียมตัวนั่งเรือกลับสู่เมืองนาโปลี

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ American Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่  เมืองซอร์เรนโต-อมัลฟี่โคสต์-เมืองโพสิตาโน-เมืองอมัลฟี่-เมืองราเวลโล่ (อิตาลี)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซอร์เรนโต เป็นที่มาของเพลง Come Back To Sorrento เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในเรื่องของทัศนียภาพที่สวยงาม และเป็นเมืองพักตากอากาศริมอ่าวเนเปิ้ล ที่มีชื่อเสียงที่เหล่าคนดังมากมายเดินทางมาพักร้อนกันที่เมืองแห่งนี้ ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูง และไล่ระดับลงมาตาม  ความลาดชันจนลงมาถึงระนาบเดียวกันกับหาดทรายสีเทาที่ได้รับการจัดระเบียบไว้อย่างเรียบร้อย และมีชายฝั่ง Amalfi ที่เลียบริมทะเลไปตามหน้าผายาวถึง 50 กม. จากนั้นนำท่านเดินทางลัดเลาะชายฝั่ง อมัลฟี่โคสต์ (AMALFI COAST)  ซี่งได้รับการยกย่องว่าเป็นชายฝั่งที่สวยที่สุดในยุโรป โดยเส้นทางการเดินทางจะลัดเลาะไปตามหน้าผาที่สูงชันเรียบชายฝั่ง โดยจะนำท่านเที่ยวชมเมืองสำคัญๆริมชายฝั่งที่ได้รับกสนอนุรักษ์และประกาศไว้ให้เป็นมรดกโลก เดินทางถึง เมืองโพสิตาโน (POSITANO) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่บนหน้าผา สีสันของบ้านเรือนนั้นถือว่าเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้มายังเมืองแห่งนี้ ให้ท่านได้เดินเล่นและดื่มด่ำกับบรรยากาศโยรอบ หรือถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำออกเดินทางต่อสู่ เมืองอมัลฟี่ (AMALFI) ระหว่างทางจะได้เห็นบรรยากาศและทัศนียภาพริมฝั่งทะเลและผาสูงชัน ผ่านไร่ส้ม ไร่มะนาว หรือผลไม้พื้นเมืองต่าง และหมู่บ้านที่ปลูกลดหลั่นกันไปความสูงต่ำของหน้าผา นำท่านถ่ายรูปกับ โบส์เซ็นต์แอนดรูว์ เป็นศาสนสถานประจำเมืองแห่งนี้ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 900 ปี จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองราเวลโล่ (RAVELLO) หมู่บ้านเล็กๆของแคว้นคัมพาเนีย ที่มีความงามทั้งทางกายภาพและความหลากหลายทางธรรมชาติ รวมไปถึงความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น จึงได้รับการบรรจุไว้ในส่วนหนึ่งของคอสติเอรา อามาลฟิตานา ซึ่งเป็นหนึ่งในรายชื่อมรดกโลกของอิตาลี ในปี ค.ศ.1997 จากองค์การยูเนสโก นอกจากนี้หมู่บ้านราเวลโล่ ยังเป็นสถานที่ที่ศิลปินดัง อย่าง ริชาร์ด วาร์กเนอร์ ศิลปินชาวเยอรมันเคยมาแสดงคอนเสิร์ต จนทำให้มีการจัดเทศกาลคอนเสิร์ตที่หมู่บ้านแห่งนี้ นำท่านเดินชม จัตุรัสกลางเมืองเวสโควาโด จากนั้นนำท่นถ่ายรูปโบสถ์ประจำเมืองที่มีอายุกว่า 800 ปี ชมประตูสัมฤทธิ์ (THE BRONZE DOOR) ที่มีภาพสลักเรื่องราวของพระคริสต์ถึง 54 ช่อง จากนั้นนำท่านสู่ วิลล่า รูโฟโล คฤหาสน์บนหน้าผาริมทะเลที่สวยงาม ภายในมีสวนดอกไม้ริมหน้าผาที่ งดงามยิ่ง และเป็นจุดชมวิวที่เป็นเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของเมืองราเวลโล่ 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ American Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า เมืองปอมเปอี-กรุงโรม-สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (อิตาลี)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านสู่ เมืองปอมเปอี เป็นเก่าแก่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากเมื่อ 2,000 กว่าปีก่อนหน้านี้ ในยุคก่อนคริสต์ศักราชเมืองปอมเปอีนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของกรีกเรื่อยมา กระทั่งราว 80 ปีก่อนคริสต์ศักราชจึงถูกยึดครองเป็นอาณานิคมของอาณาจักรโรมัน ระหว่างการเดินทางท่านจะเห็นภูเขาไฟวิซูสเวียส ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่เกิดการประทุและพ่นลาวามาทับถมเมืองปอมเปอีให้อยู่ใต้เถ้าถ่าน นำท่านเข้าชม เมืองโบราณปอมเปอี ที่ถูกปกคลุมไว้ด้วยลาวาเมื่อครั้งเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟวิซูสเวียส จากการตั้งใจขุดค้นซากที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ของผู้คน สัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่เหมือนถูกหยุดอยู่ ผ่านกาลเวลาอันยาวนาน ที่ยังบ่งบอกถึงความเจริญในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ทั้งศูนย์กลางการค้า ศาสนา และวัฒนธรรม ที่ตราตึงไว้บนผืนดินแห่งเมืองนี้รอให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสได้แห่งภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครคาดคิดและไม่อาจหลีกหนีได้ทัน     

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรมเพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้ง 7 ริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศ โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านหน้าของ สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ในอดีตนั้นเป็นสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Warmt Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก วาติกัน-มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์–น้ำพุเทรวี่-สนามบิน (อิตาลี-ดูไบ)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก โดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด นำท่านชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica)

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณ น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) สัญลักษณ์ของกรุงโรมที่โด่งดัง แล้วเชิญอิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นและของที่ระลึกในบริเวณย่านบันไดสเปน (The Spanish Step) ซึ่งเป็นแหล่งแฟชั่นชั้นนำสุดหรูและยังเป็นแหล่งนัดพบของชาวอิตาเลี่ยน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน

22.05 น. ëออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 096

(æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่เจ็ด  ดูไบ-กรุงเทพฯ-สนามบินสุวรรณภูมิ                                                                (ดูไบ-ไทย)

05.55 น. Pเดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

08.45 น. ëออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 370

(æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

18.05 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  โดยสวัส

12 เมษายม - 3 มิถุนายน 2563

วันเดินทาง

สายการบินเอมิเรตส์ (Emirates)

สายการบิน

รหัส : Ek027

โปรแกรมทัวร์ : อิตาลีใต้ 7 วัน 4 คืน

รายละเอียดโปรแกรม :  กรุงโรมนครรัฐวาติกัน โคลอสเซี่ยม น้ำพุเทรวี่ บันไดสเปน นาโปลี ปอมเปอี เกาะคาปรี 

ซอร์เรนโต

ราคาเริ่มต้น : 44,900 TH

line-logo.png

ดาวน์โหลดใบสั่งจองโปรแกรมทัวร์

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

2

1

3

4

6

5

วันแรก กรุงเทพฯ-สนามบินสุวรรณภูมิ (ไทย)

23.30 น. คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง ดูไบ-กรุงโรม-นาโปลี (ยูเออี-อิตาลี)

03.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 377 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

06.55 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

09.10 น. เดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์  เที่ยวบินที่ EK 097

(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

13.25 น. เดินทางถึงกรุงโรม ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนาโปลี เมืองหลวงแห่งแคว้นกัมปาเนีย เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญของอิตาลีทางตอนใต้ของในประเทศในคาบสมุทรอิตาลี เป็นเมืองที่เคยถูกยึดครองโดยชาวกรีก และชาวโรมัน

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ American Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่สาม  นาโปลี-เกาะคาปรี-ถ้ำบลูก็อตโต-เขตเมืองเก่าเกาะคาปรี (อิตาลี)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นนำเดินทางสู่ท่าเรือ เพื่อเตรียมตัว นั่งเรือ Jetfoil สู่เกาะคาปรี เกาะที่มีเสน่ห์เป็นของตัวเองมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟวิซูสเวียส จากนั้นนำท่านเช้าชม ถ้ำบลูก็อตโต เป็นถ้ำที่มีความสวยงามทั้งในเรื่องของที่ตั้งที่มีปากทางเข้าถ้ำอยู่ในทะเล และยามเมื่อแสงแดดส่องมากระทบกับน้ำทะเลสีครามภายในถ้ำจะเกิดสีเปล่งประกายด้วยสีน้ำเงินเข้มงดงามสมกับชื่อว่า BLUE GROTTO ** การเข้ามชมถ้ำบลูก็อตโตขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและน้ำขึ้นน้ำลงในแต่ละวัน หากไม่สามารถเข้าชมได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม**

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำท่านนั่งรถรางขึ้นสู่ เขตเมืองเก่าด้านบนเกาะคาปรี นำท่านเดินเล่นชมเมืองเก่าบ้านเรือนที่สวยงามและแสนน่ารักเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ มีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึก ของพื้นเมือง หรือเลือกนั่งพักผ่อนดื่มกาแฟตรมอัธยาศัย ถึงเวลาอันสมควรนำท่านนำท่านเดินทางสู่ Marina Grande เพื่อเตรียมตัวนั่งเรือกลับสู่เมืองนาโปลี

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ American Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่  เมืองซอร์เรนโต-อมัลฟี่โคสต์-เมืองโพสิตาโน-เมืองอมัลฟี่-เมืองราเวลโล่ (อิตาลี)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซอร์เรนโต เป็นที่มาของเพลง Come Back To Sorrento เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในเรื่องของทัศนียภาพที่สวยงาม และเป็นเมืองพักตากอากาศริมอ่าวเนเปิ้ล ที่มีชื่อเสียงที่เหล่าคนดังมากมายเดินทางมาพักร้อนกันที่เมืองแห่งนี้ ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูง และไล่ระดับลงมาตาม  ความลาดชันจนลงมาถึงระนาบเดียวกันกับหาดทรายสีเทาที่ได้รับการจัดระเบียบไว้อย่างเรียบร้อย และมีชายฝั่ง Amalfi ที่เลียบริมทะเลไปตามหน้าผายาวถึง 50 กม. จากนั้นนำท่านเดินทางลัดเลาะชายฝั่ง อมัลฟี่โคสต์ (AMALFI COAST)  ซี่งได้รับการยกย่องว่าเป็นชายฝั่งที่สวยที่สุดในยุโรป โดยเส้นทางการเดินทางจะลัดเลาะไปตามหน้าผาที่สูงชันเรียบชายฝั่ง โดยจะนำท่านเที่ยวชมเมืองสำคัญๆริมชายฝั่งที่ได้รับกสนอนุรักษ์และประกาศไว้ให้เป็นมรดกโลก เดินทางถึง เมืองโพสิตาโน (POSITANO) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่บนหน้าผา สีสันของบ้านเรือนนั้นถือว่าเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้มายังเมืองแห่งนี้ ให้ท่านได้เดินเล่นและดื่มด่ำกับบรรยากาศโยรอบ หรือถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำออกเดินทางต่อสู่ เมืองอมัลฟี่ (AMALFI) ระหว่างทางจะได้เห็นบรรยากาศและทัศนียภาพริม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ฝั่งทะเลและผาสูงชัน ผ่านไร่ส้ม ไร่มะนาว หรือผลไม้พื้นเมืองต่าง และหมู่บ้านที่ปลูกลดหลั่นกันไปความสูงต่ำของหน้าผา นำท่านถ่ายรูปกับ โบส์เซ็นต์แอนดรูว์ เป็นศาสนสถานประจำเมืองแห่งนี้ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 900 ปี จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองราเวลโล่ (RAVELLO) หมู่บ้านเล็กๆของแคว้นคัมพาเนีย ที่มีความงามทั้งทางกายภาพและความหลากหลายทางธรรมชาติ รวมไปถึงความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น จึงได้รับการบรรจุไว้ในส่วนหนึ่งของคอสติเอรา อามาลฟิตานา ซึ่งเป็นหนึ่งในรายชื่อมรดกโลกของอิตาลี ในปี ค.ศ.1997 จากองค์การยูเนสโก นอกจากนี้หมู่บ้านราเวลโล่ ยังเป็นสถานที่ที่ศิลปินดัง อย่าง ริชาร์ด วาร์กเนอร์ ศิลปินชาวเยอรมันเคยมาแสดงคอนเสิร์ต จนทำให้มีการจัดเทศกาลคอนเสิร์ตที่หมู่บ้านแห่งนี้ นำท่านเดินชม จัตุรัสกลางเมืองเวสโควาโด จากนั้นนำท่นถ่ายรูปโบสถ์ประจำเมืองที่มีอายุกว่า 800 ปี ชมประตูสัมฤทธิ์ (THE BRONZE DOOR) ที่มีภาพสลักเรื่องราวของพระคริสต์ถึง 54 ช่อง จากนั้นนำท่านสู่ วิลล่า รูโฟโล คฤหาสน์บนหน้าผาริมทะเลที่สวยงาม ภายในมีสวนดอกไม้ริมหน้าผาที่ งดงามยิ่ง และเป็นจุดชมวิวที่เป็นเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของเมืองราเวลโล่ 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ American Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า เมืองปอมเปอี-กรุงโรม-สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (อิตาลี)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านสู่ เมืองปอมเปอี เป็นเก่าแก่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากเมื่อ 2,000 กว่าปีก่อนหน้านี้ ในยุคก่อนคริสต์ศักราชเมืองปอมเปอีนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของกรีกเรื่อยมา กระทั่งราว 80 ปีก่อนคริสต์ศักราชจึงถูกยึดครองเป็นอาณานิคมของอาณาจักรโรมัน ระหว่างการเดินทางท่านจะเห็นภูเขาไฟวิซูสเวียส ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่เกิดการประทุและพ่นลาวามาทับถมเมืองปอมเปอีให้อยู่ใต้เถ้าถ่าน นำท่านเข้าชม เมืองโบราณปอมเปอี ที่ถูกปกคลุมไว้ด้วยลาวาเมื่อครั้งเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟวิซูสเวียส จากการตั้งใจขุดค้นซากที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ของผู้คน สัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่เหมือนถูกหยุดอยู่ ผ่านกาลเวลาอันยาวนาน ที่ยังบ่งบอกถึงความเจริญในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ทั้งศูนย์กลางการค้า ศาสนา และวัฒนธรรม ที่ตราตึงไว้บนผืนดินแห่งเมืองนี้รอให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสได้แห่งภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครคาดคิดและไม่อาจหลีกหนีได้ทัน 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

    

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรมเพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้ง 7 ริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศ โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านหน้าของ สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ในอดีตนั้นเป็นสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Warmt Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก วาติกัน-มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์–น้ำพุเทรวี่-สนามบิน (อิตาลี-ดูไบ)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก โดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด นำท่านชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica)

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณ น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) สัญลักษณ์ของกรุงโรมที่โด่งดัง แล้วเชิญอิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นและของที่ระลึกในบริเวณย่านบันไดสเปน (The Spanish Step) ซึ่งเป็นแหล่งแฟชั่นชั้นนำสุดหรูและยังเป็นแหล่งนัดพบของชาวอิตาเลี่ยน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน

22.05 น. ëออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 096

(æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่เจ็ด  ดูไบ-กรุงเทพฯ-สนามบินสุวรรณภูมิ                                                                (ดูไบ-ไทย)

05.55 น. Pเดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

08.45 น. ëออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 370

(æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

18.05 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

Blue-grotto.jpg
Positano.jpg
pompei.jpg
Vatican.jpg
bottom of page