top of page

วันแรก กรุงเทพฯ (ไทย) 

22.00 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T        สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก

วันที่สอง ดูไบ-ดุสเซลดอฟ–มหาวิหารโคโลญจน์-โคโลญจน์ (ยูเออี-เยอรมนี)

01.15 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 385 (æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

04.45 น. ถึงสนามบินเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง  

08.30 น. เดินทางสู่ เมืองดุสเซลดอฟ ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK55 (æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

13.25 น. เดินทางถึงเมืองดุสเซลดอฟ ประเทศเยอรมนี หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมืองโคโลญจน์ (Cologne) เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโซนตะวันตกของเยอรมนีซึ่งถูกสร้างโดยชาวโรมัน และเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สี่ของประเทศเยอรมนี นำท่านถ่ายรูปด้านหน้ามหาวิหารโคโลญจน์ หรือ เคิล์นโดม เป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งเมืองโคโลญจน์ประเทศเยอรมนี ใช้เวลาสร้างถึง 600 ปีโดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1248 และสิ้นสุดลงที่ปี ค.ศ. 1880 เพื่ออุทิศให้แก่นักบุญปีเตอร์และพระแม่มารี และมีโกศทองของกษัตริย์ทั้งสามถูกเก็บไว้ในตัววิหารด้วย นอกจากนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1993 อีกด้วย

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พักณ Holiday Inn Dusseldorf - Hafen หรือเทียบเท่า

 

วันที่สาม โคโลญจน์-โคเฮม-แฟรงก์เฟริต-ชมจัตุรัสโรเมอร์ (เยอรมนี)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  หลังจากนั้นจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโคเฮม (Cochem) เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักโรแมนติกแห่งหนึ่งซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองจะเป็นแม่น้ำและเทือกเขา การปลูกบ้านเรือนต่างๆตามแนวสันเขา จุดเด่นของเมืองนั้นคือยอดเขาเป็นที่ตั้งของ ปราสาท Reichsburg Castle ที่มีอายุเกือบ 1,000 ปี เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ล้อมไปด้วยไร่องุ่นและแม่น้ำโมแซล (Mosselle river) ไหลผ่านใจกลางเมือง

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เดินทางสู่เมืองแฟรงก์เฟริต (Frankfurt) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไมล์ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการเงินของยุโรป ปัจจุบันแฟรงก์เฟิร์ตเป็นศูนย์กลางทางการเงินของยุโรปที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากลอนดอน  แฟรงก์เฟิร์ตเป็นเมืองแห่งอาคารสูงระฟ้า จึงได้ฉายาว่า Mainhatten เมื่อดูอย่างใกล้ชิดก็จะเผยให้เห็นเสน่ห์ของเมืองใหญ่ ที่มีบ้านเรือนที่สวยงามเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะไว้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง หลังจากนั้นนำเที่ยว ชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์ อิสระอาหารค่ำเพื่อความต่อเนื่องในการเลือกซื้อสิ้นค้าและท่องเที่ยวตามอัธยาศัย ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเข้าสู่ที่พัก ã ณ Dorint Main Taunus Frankfurt/Sulzbach หรือระดับเดียวกัน

 

วันที่สี่ แฟรงก์เฟริต-ไฮเดลเบิร์ก–ปราสาทไฮเดลเบิร์ก–สตราสบูร์ก-มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก (เยอรมนี-ฝรั่งเศส)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก เมืองเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองแฟรงค์เฟิร์ต อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชม ตัวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์ก ริมฝั่งแม่น้ำเนคคาร์ที่มีบรรยากาศสวยงาม นำท่านเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ตั้งอยู่บนเนินเขาโดยรอบมีป่าละเมาะแสนสวยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นได้บริเวณปาร์กของปราสาทจะมีต้นไม้ใหญ่อย่างต้นเบิช ต้นเมเปิ้ล ต้นโอ้ค เมื่อขึ้นไปอยู่บนเนินเขาที่ตั้งของปราสาทจะมีจุดชมวิวที่จะมองลงไปดูตัวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์ก และยังเห็นแม่น้ำเนคคาร์ ที่ไหลผ่าน ตัวเมืองไฮเดลเบิร์กอีกด้วย ปราสาทไฮเดลเบิร์กนี้มีชื่อเสียงมาก มีการก่อสร้างต่อเนื่องกว่า400 ปี ตัวอาคารด้านนอกและตัววังเก่าเป็นศิละแบบโกธิคและเรอเนสซองค์ ส่วนอีก 2 อาคารที่อยู่ทางตะวันออกและทางเหนือสร้างเมื่อศตวรรษที่ 16 ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางด้านสถาปัตยกรรมของเยอรมนี นอกจากนี้ปราสาทไฮเดลเบิร์กยังมีห้องเก็บไวน์ซึ่งบรรจุไว้ในถังโอ๊คบ่ม ที่เป็นถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) เมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก เป็นเมืองหลวงแห่ง แคว้นอัลซาส (Alsace) แห่งฝรั่งเศส เป็นเมืองที่เรียกได้ว่า มี 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา สตราสบูร์กเป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่น นำท่านชม จัตุรัสเกลแบร์ จัตุรัสที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางของเมืองสตราสบูร์ก โดยภายในจัตุรัสยังเป็นที่ตั้งของ รูปปั้นช็อง แบ๊บติสต์ เกลแบร์ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องสงครามการปฏิวัติของประเทศฝรั่งเศส นำท่านถ่ายรูปมหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1176 ถึง 1439 ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพูดูงามระหงโดดเด่นเห็นแต่ไกลและถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศส 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ã 7Hotel & Spa หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า กอลมาร์-ลูเซิร์น-รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน-สะพานไม้ชาเปล (ฝรั่งเศส-สวิสฯ)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (COLMAR) เมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวอันดับสองของแคว้นอัลซาซ (ALSACE) เป็นเมืองที่ยังคงความงดงามของสถาปัตยกรรมไว้ได้อย่างมาก นำท่านชมเขตเมืองเก่ากอลมาร์ (COLMAR OLD TOWN) เขตที่มีสถาปัตยกรรมในยุคศตวรรษที่ 16-17 ตั้งอยู่ ซึ่งบางหลังเป็นอาคารสไตล์เรอเนซองส์อันงดงาม เป็นย่านที่มีฉายาว่า “เวนิสน้อย” (LITTLE VENICE) ย่านที่ได้ชื่อมาจากลักษณะของบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บนสองฝั่งคลอง ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำโลช (LAUCH) มีคลองเล็ก ๆ และมีบ้านไม้แบบเก่าแก่สไตล์เยอรมันกอธิคและเรอเนซองส์ 
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น  อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเปล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด นำท่านชม รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 อิสระอาหารค่ำเพื่อความต่อเนื่องในการเลือกซื้อสิ้นค้าและท่องเที่ยวตามอัธยาศัย ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเข้าสู่ที่พัก ã ณ Ibis Styles Luzern City หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก ลูเซิร์น–ยอดเขาพิลาตุส-ซูก–สนามบินซูริค (สวิสฯ-ดูไบ)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาพิลาตุส (Mt.Pilatus) หรือภูเขามังกร เป็นยอดเขาคู่บ้านคู่เมืองลูเซิร์น มีความสูงราว 2,120 เมตร เราจะได้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบลูเซิร์น ทะเลสาบสี่พันธรัฐ รวมทั้งความงดงามของแนวเทือกเขาแอลป์

เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซูก เคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดแต่ปัจจุบันคือเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีเขตเมืองเก่าที่ก่ตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่13 อาคารบ้านเรือนยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างสวยงามอีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวทะเลสาปที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองซูริค

22.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 86 (æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่เจ็ด ดูไบ-กรุงเทพฯ (ยูเออไทย)

06.25 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

09.40 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน เอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK372

(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

18.55 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

28 เมษายน - 22 มิถุนายน 2563

วันเดินทาง

สายการบินเอมิเรตส์ (Emirates)

สายการบิน

รหัส : Ek029

โปรแกรมทัวร์ : เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน

รายละเอียดโปรแกรม :  มหาวิหารโคโลญจน์ เมืองเก่าโคคเฮม แฟรงก์เฟิร์ต จัตุรัสโรเมอร์ เมืองไฮเดลเบิร์ก แคว้นอัลซาส สตาร์บูร์ก

กอร์มา เมืองลูเซิร์น

ราคาเริ่มต้น : 42,900 TH

line-logo.png

ดาวน์โหลดใบสั่งจองโปรแกรมทัวร์

** รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาติดต่อแผนกเซลล์ เพื่อขอรายการทัวร์ทุกครั้ง

2

1

3

4

6

5

7

วันแรก กรุงเทพฯ (ไทย) 

22.00 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก

วันที่สอง ดูไบ-ดุสเซลดอฟ–มหาวิหารโคโลญจน์-โคโลญจน์ (ยูเออี-เยอรมนี)

01.15 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 385 (æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

04.45 น. ถึงสนามบินเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง  

08.30 น. เดินทางสู่ เมืองดุสเซลดอฟ ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK55

(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

13.25 น. เดินทางถึงเมืองดุสเซลดอฟ ประเทศเยอรมนี หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมืองโคโลญจน์ (Cologne) เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโซนตะวันตกของเยอรมนีซึ่งถูกสร้างโดยชาวโรมัน และเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สี่ของประเทศเยอรมนี นำท่านถ่ายรูปด้านหน้ามหาวิหารโคโลญจน์ หรือ เคิล์นโดม เป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งเมืองโคโลญจน์ประเทศเยอรมนี ใช้เวลาสร้างถึง 600 ปีโดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1248 และสิ้นสุดลงที่ปี ค.ศ. 1880 เพื่ออุทิศให้แก่นักบุญปีเตอร์และพระแม่มารี และมีโกศทองของกษัตริย์ทั้งสามถูกเก็บไว้ในตัววิหารด้วย นอกจากนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1993 อีกด้วย

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พักณ Holiday Inn Dusseldorf - Hafen หรือเทียบเท่า

 

วันที่สาม โคโลญจน์-โคเฮม-แฟรงก์เฟริต-ชมจัตุรัสโรเมอร์ (เยอรมนี)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  หลังจากนั้นจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโคเฮม (Cochem) เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักโรแมนติกแห่งหนึ่งซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองจะเป็นแม่น้ำและเทือกเขา การปลูกบ้านเรือนต่างๆตามแนวสันเขา จุดเด่นของเมืองนั้นคือยอดเขาเป็นที่ตั้งของ ปราสาท Reichsburg Castle ที่มีอายุเกือบ 1,000 ปี เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ล้อมไปด้วยไร่องุ่นและแม่น้ำโมแซล (Mosselle river) ไหลผ่านใจกลางเมือง

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เดินทางสู่เมืองแฟรงก์เฟริต (Frankfurt) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไมล์ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการเงินของยุโรป ปัจจุบันแฟรงก์เฟิร์ตเป็นศูนย์กลางทางการเงินของยุโรปที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากลอนดอน  แฟรงก์เฟิร์ตเป็นเมืองแห่งอาคารสูงระฟ้า จึงได้ฉายาว่า Mainhatten เมื่อดูอย่างใกล้ชิดก็จะเผยให้เห็นเสน่ห์ของเมืองใหญ่ ที่มีบ้านเรือนที่สวยงามเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะไว้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง หลังจากนั้นนำเที่ยว ชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์ อิสระอาหารค่ำเพื่อความต่อเนื่องในการเลือกซื้อสิ้นค้าและท่องเที่ยวตามอัธยาศัย ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเข้าสู่ที่พัก ã ณ Dorint Main Taunus Frankfurt/Sulzbach หรือระดับเดียวกัน

 

วันที่สี่ แฟรงก์เฟริต-ไฮเดลเบิร์ก–ปราสาทไฮเดลเบิร์ก–สตราสบูร์ก-มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก (เยอรมนี-ฝรั่งเศส)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก เมืองเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองแฟรงค์เฟิร์ต อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชม ตัวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์ก ริมฝั่งแม่น้ำเนคคาร์ที่มีบรรยากาศสวยงาม นำท่านเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ตั้งอยู่บนเนินเขาโดยรอบมีป่าละเมาะแสนสวยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นได้บริเวณปาร์กของปราสาทจะมีต้นไม้ใหญ่อย่างต้นเบิช ต้นเมเปิ้ล ต้นโอ้ค เมื่อขึ้นไปอยู่บนเนินเขาที่ตั้งของปราสาทจะมีจุดชมวิวที่จะมองลงไปดูตัวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์ก และยังเห็นแม่น้ำเนคคาร์ ที่ไหลผ่าน ตัวเมืองไฮเดลเบิร์กอีกด้วย ปราสาทไฮเดลเบิร์กนี้มีชื่อเสียงมาก มีการก่อสร้างต่อเนื่องกว่า400 ปี ตัวอาคารด้านนอกและตัววังเก่าเป็นศิละแบบโกธิคและเรอเนสซองค์ ส่วนอีก 2 อาคารที่อยู่ทางตะวันออกและทางเหนือสร้างเมื่อศตวรรษที่ 16 ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางด้านสถาปัตยกรรมของเยอรมนี นอกจากนี้ปราสาทไฮเดลเบิร์กยังมีห้องเก็บไวน์ซึ่งบรรจุไว้ในถังโอ๊คบ่ม ที่เป็นถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) เมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก เป็นเมืองหลวงแห่ง แคว้นอัลซาส (Alsace) แห่งฝรั่งเศส เป็นเมืองที่เรียกได้ว่า มี 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา สตราสบูร์กเป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่น นำท่านชม จัตุรัสเกลแบร์ จัตุรัสที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางของเมืองสตราสบูร์ก โดยภายในจัตุรัสยังเป็นที่ตั้งของ รูปปั้นช็อง แบ๊บติสต์ เกลแบร์ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องสงครามการปฏิวัติของประเทศฝรั่งเศส นำท่านถ่ายรูปมหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1176 ถึง 1439 ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพูดูงามระหงโดดเด่นเห็นแต่ไกลและถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศส 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ã 7Hotel & Spa หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า กอลมาร์-ลูเซิร์น-รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน-สะพานไม้ชาเปล (ฝรั่งเศส-สวิสฯ)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (COLMAR) เมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวอันดับสองของแคว้นอัลซาซ (ALSACE) เป็นเมืองที่ยังคงความงดงามของสถาปัตยกรรมไว้ได้อย่างมาก นำท่านชมเขตเมืองเก่ากอลมาร์ (COLMAR OLD TOWN) เขตที่มีสถาปัตยกรรมในยุคศตวรรษที่ 16-17 ตั้งอยู่ ซึ่งบางหลังเป็นอาคารสไตล์เรอเนซองส์อันงดงาม เป็นย่านที่มีฉายาว่า “เวนิสน้อย” (LITTLE VENICE) ย่านที่ได้ชื่อมาจากลักษณะของบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บนสองฝั่งคลอง ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำโลช (LAUCH) มีคลองเล็ก ๆ และมีบ้านไม้แบบเก่าแก่สไตล์เยอรมันกอธิคและเรอเนซองส์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น  อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเปล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด นำท่านชม รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 อิสระอาหารค่ำเพื่อความต่อเนื่องในการเลือกซื้อสิ้นค้าและท่องเที่ยวตามอัธยาศัย ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเข้าสู่ที่พัก ã ณ Ibis Styles Luzern City หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก ลูเซิร์น–ยอดเขาพิลาตุส-ซูก–สนามบินซูริค (สวิสฯ-ดูไบ)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาพิลาตุส (Mt.Pilatus) หรือภูเขามังกร เป็นยอดเขาคู่บ้านคู่เมืองลูเซิร์น มีความสูงราว 2,120 เมตร เราจะได้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบลูเซิร์น ทะเลสาบสี่พันธรัฐ รวมทั้งความงดงามของแนวเทือกเขาแอลป์

เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซูก เคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดแต่ปัจจุบันคือเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีเขตเมืองเก่าที่ก่ตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่13 อาคารบ้านเรือนยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างสวยงามอีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวทะเลสาปที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองซูริค

22.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 86 (æบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่เจ็ด ดูไบ-กรุงเทพฯ (ยูเออไทย)

06.25 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

09.40 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน เอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK372

(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

18.55 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

Cologne Cathedral22.jpg
Frankfurt.jpg
water-reflection-Tourism-Germany-bridge-
spreuerbrücke-luzern-and-central-switzer
MT.Pitlatus s.jpg
bottom of page